ชมพุทธประวัติ ฉบับการ์ตูน

Art of Asia: Buddhism - The Art of Enlightenment

ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)

การแนะแนว"อนาคตประเทศไทยกับ 10 อาชีพสุดฮิพ"จัดโดยมูลนิธิไทยคม 10-11 ต.ค.52

Bookmark and Share

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เรื่องของห้องสมุด โดย บางกอกเกี้ยน

วันที่ 05 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11562 มติชนรายวัน


เรื่องของห้องสมุด


คอลัมน์ โลกสองวัย

โดย บางกอกเกี้ยน




ระยะนี้น้องหนูที่เรียนชั้น ม.ปลาย กำลังวุ่นวายอยู่กับการสอบบรรดา "เนต" ทั้งหลาย ขอให้จงโชคดีกับการเรียนต่อระดับสูงขึ้นไปอีกเด้อ

ประการ สำคัญ อยากเรียนวิชาอะไรคุยกับคุณพ่อคุณแม่ให้เข้าใจกันสักหน่อย อย่าผลีผลามเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่ตั้ง คุณพ่อคุณแม่ก็เช่นเดียวกัน ชี้แจงแสดงเหตุผลกับลูก แล้วฟังเหตุผลจากลูกด้วย อย่าลืม โบราณท่านว่า "อย่าข่มขืน..." เอ๊ะ ไม่ใช่สิ ต้อง "อย่าข่มเขาโคขืนให้กินหญ้า"

มีงานที่ต้องแนะนำต่อเนื่อง คือนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวบรวมผลงานทัศนศิลป์พระบรมสาทิสลักษณ์จากศิลปินสาขาทัศนศิลป์ตั้งแต่ศิลปิน อาวุโสกว่า 30 คน ถ่ายทอดทรรศนะความงามเชิงสุนทรียศิลป์และการตีความหมายในบริบทของสังคม ประวัติศาสตร์ และประวัติศาสตร์ศิลป์ ในหลายรูปแบบ อาทิ พระเจ้าอยู่หัวในชีวิตประจำวันของประชาชนกับสังคม เป็นต้น

งานนี้มี ต่อเนื่องตั้งแต่สิงหาคมโน่น จะจบงาน 15 พฤศจิกายนนี้ หาเวลาไปชื่นชมให้ได้นะครับ ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ชื่องาน "ภาพของพ่อ... บารมีแห่งแผ่นดิน"

งานวันนี้ (5 พฤศจิกายน) สำนักพิมพ์รักลูกบุกส์จัดเปิดตัวหนังสือ "คู่มือเลี้ยงลูก" เวลา 14.00-15.30 น. ณ ลานสานฝัน TK Park ในงานมีเสวนาเรื่อง "เลี้ยงลูกให้เท่าทันโรคและโลกยุคใหม่" จากกุมารแพทย์

คือ รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงพิมล ศรีสุภาพ กับ รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงกุลกัญญา โชคไพบูลย์ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์เลี้ยงลูก 3 รุ่นจากครอบครัวคนดัง คุณบ๊อบ-ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ คุณเปิ้ล-หัทยา วงษ์กระจ่าง ผู้ดำเนินรายการคือ คุณดาว-อภิสรา นุตยกุล แห่ง 30 ยังแจ๋ว

หนังสือคู่มือเลี้ยงลูก จัดพิมพ์มาครบ 25 ปี จากการรวบรวมเรียบเรียงของศาสตราจารย์ (เกียรติคุณ) แพทย์หญิงชนิกา ตู้จินดา พ่อแม่มือใหม่หัดเลี้ยงควรหาซื้อมาศึกษาและเป็นคู่มือเลี้ยงลูก

วันก่อนว่าถึงการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดพิพิธภัณฑ์ "บ้านจิรายุ-พูนทรัพย์"วันนี้ขอขยายความเพิ่มเติมเพื่อความรู้ความเข้าใจให้ ถ่องแท้

"บ้านจิรายุ-พูนทรัพย์" เลขที่ 1166 ถนนสุขุมวิท ซอย 101/1 สืบเนื่องจากหม่อมหลวงจิรายุ นพวงศ์ องคมนตรี และท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากเจ้าฟ้า 2 พระองค์ โดยหม่อมหลวงจิรายุได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ต่อเนื่องยางนาน

ส่วนท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ได้รับ พระกรุณาจากสมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร ที่ทรงอบรมเลี้ยงดูท่านผู้หญิงมาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ กระทั่งสำเร็จการศึกษาอักษรศาสตรบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ทั้งสองสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณจึงดำริจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติให้สมเด็จเจ้าฟ้าทั้งสองพระองค์ด้วยการน้อมเกล้าฯ ถวายที่ดินบริเวณที่พักในซอยดังกล่าวแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดสร้างพิพิธภัณฑ์และห้องสมุด "บ้านจิรายุ -พูนทรัพย์" ขึ้นเพื่อเป็นแหล่งวิทยาการและให้บริการการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ และเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ทันสมัยดำเนินการได้อย่างยั่งยืน

ใครที่รู้จักและเคยพบท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ในวันนี้อาจจะไม่เชื่อสายตาตนเองว่า อดีตคณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ ท่านนี้จะมีอายุขึ้นปีที่ 100 ทั้งยังแข็งแรงและมีความจำที่แม่นยำราวกับเพิ่งจะเกษียณจากราชการ ซึ่งลูกศิษย์ของท่านเพิ่งจะจัดงานแสดงมุทิตาจิตไปเมื่อเร็วๆ นี้ - อนุโมทนาสาธุ

อีกเรื่อง โครงการสารานุกรมไทยฯ ครบรอบ 40 ปี จึงจัดสร้างห้องสมุดสารานุกรมไทยฯ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 10 แห่งทั้งประเทศ คือที่ห้องสมุดแห่งชาติ นครราชสีมา โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม โรงเรียนเมืองสมุทรสงคราม โรงเรียนโยธินบูรณะ เพชรบุรี โรงเรียนในอีกบางจังหวัด

ทั้งจัดสร้าง "รถตู้ห้องสมุดสารานุกรมไทยฯ พระราชทาน" 1 คัน น้อมเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อนำหนังสือสารานุกรมไทยฯ

ไปเผยแพร่ในทุกพื้นที่ไทย

หน้า 21

http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01pra04051152&sectionid=0131&day=2009-11-05

 

นักมานุษยวิทยาคนสำคัญ "โคล้ด เลวี่-สเตราส์" เสียชีวิตในวัย 100 ปี

 
โคล้ด เลวี่-สเตราส์


เลวี่-สเตราส์ ในวัยหนุ่ม

วันที่ 04 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 เวลา 15:29:42 น.  มติชนออนไลน์

นักมานุษยวิทยาคนสำคัญ "โคล้ด เลวี่-สเตราส์" เสียชีวิตในวัย 100 ปี

"โค ล้ด เลวี่-สเตราส์" นักมานุษยวิทยาคนสำคัญชาวฝรั่งเศสและผู้ก่อตั้งสาขาวิชามานุษยวิทยาเชิงโครง สร้างได้เสียชีวิตลงในวัยหนึ่งศตวรรษ ชี้เป็นผู้ต่อต้านท้าทายว่าวัฒนธรรมยุโรปไม่ได้ดีเลิศสูงส่งกว่าวัฒนธรรม อื่น ปธน.ฝรั่งเศสระบุเป็นนักชาติพันธุ์วิทยาผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า "โคล้ด เลวี่-สเตราส์" หนึ่งในปัญญาชนชาวฝรั่งเศสที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 และเป็นผู้ก่อตั้งสำนักคิดมานุษยวิทยาเชิงโครงสร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1950 ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ในวัย 100 ปี


เลวี่-สเตราส์ เกิดที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม เมื่อปี ค.ศ.1908 (พ.ศ.2451) ในครอบครัวที่มีพ่อและแม่เป็นชาวฝรั่งเศสเชื้อสายยิว เขาเติบโตในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และได้เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยซอร์บอนน์


เดิมที เลวี่-สเตราส์ เป็นนักศึกษาที่ชาญฉลาดผู้มีความสามารถดีเยี่ยมในวิชาธรณีวิทยา, นิติศาสตร์ และปรัชญา จนกระทั่งเมื่อมีโอกาสเดินทางไปสอนหนังสือในสาขาวิชาสังคมวิทยา ที่ประเทศบราซิล ในปี ค.ศ.1935 (พ.ศ.2478) เขาจึงเริ่มให้ความสนใจกับสาขาวิชามานุษยวิทยา


ที่ประเทศบราซิล เลวี่-สเตราส์ได้เดินทางไปศึกษาขนบธรรมเนียมประเพณีของกลุ่มชนเผ่าท้องถิ่น รวมทั้งได้ริเริ่มพัฒนาทฤษฎีและวิธีวิทยาในการศึกษากลุ่มชนเผ่าท้องถิ่น เหล่านั้น ซึ่งต่อมาได้มีคุณูปการอย่างลึกซึ้งต่อการศึกษาวิชามานุษยวิทยา


หลังจากเดินทางกลับมาประเทศฝรั่งเศส เลวี่-สเตราส์ได้ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารของกองทัพในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่หลังจากที่ฝรั่งเศสถูกกองทัพนาซีเยอรมันบุกเข้ายึดครองประเทศ เลวี่-สเตราส์ก็ตระหนักว่าตนเองตกอยู่ในอันตรายเนื่องมาจากการมีเชื้อสายยิว ของเขา ดังนั้น นักวิชาการชาวฝรั่งเศสเชื้อสายยิวคนนี้จึงตัดสินใจลี้ภัยไปยังประเทศสหรัฐ อเมริกา


ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เลวี่-สเตราส์ ได้เข้าร่วมขบวนการ "เสรีฝรั่งเศส" ซึ่งทำงานร่วมกับรัฐบาลอเมริกันในการปลดปล่อยประเทศฝรั่งเศสจากการปกครองของ นาซี หลังสงครามสิ้นสุดลง เขาจึงได้เดินทางกลับประเทศบ้านเกิด และจบการศึกษาระดับปริญญาเอกในปี ค.ศ.1948 (พ.ศ.2491)


นับแต่นั้นเป็นต้นมา เลวี่-สเตราส์ ก็ผลิตผลงานวิชาการทางด้านมานุษยวิทยาชิ้นสำคัญออกมาเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงทศวรรษ 1950 เขา ได้ใช้ขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นและนิทานปรัมปรามาเป็นเครื่องมือที่แสดง ให้เห็นว่า แม้มนุษย์ในทุกสังคมจะมีแบบแผนทางพฤติกรรมและความคิดร่วมกัน แต่พฤติกรรมของมนุษย์เหล่านั้นก็วางอยู่บนพื้นฐานของระบบตรรกะที่แตกต่าง หลากหลายกันไปในแต่ละสังคม ข้อเสนอดังกล่าวได้ท้าทายระบบคิดที่เห็นว่าวัฒนธรรมยุโรปหรือตะวันตกมี เอกลักษณ์และมีความสูงส่งกว่าวัฒนธรรมอื่น ซึ่งสอดคล้องกับความคิดต่อต้านลัทธิอาณานิคมที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว พอดี


เลวี่-สเตราส์ ยังเสนออีกว่า ภาษา, การสื่อสาร และระบบตรรกะทางคณิตศาสตร์ จะเปิดเผยให้เราได้เห็นถึงระบบพื้นฐานของสังคม และความสัมพันธ์ในครอบครัว รวมทั้งระบบความเชื่อของมนุษย์นั้น ถือเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดที่จะใช้วิเคราะห์ปฏิสัมพันธ์อันซับซ้อนที่ เชื่อมโยงสถาบันระดับพื้นฐานเหล่านั้นเข้ากับสถาบันอื่น ๆ ของสังคม


ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี่ แห่งฝรั่งเศส ได้กล่าวไว้อาลัยแด่โคล้ด เลวี่-สเตราส์ ว่า "เขาเป็นหนึ่งในนักชาติพันธุ์วิทยาผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล" และ "เป็นผู้สร้างสรรค์วิชามานุษยวิทยาสมัยใหม่"


ทั้งนี้ นอกจากจะมีความสามารถในการ เขียนงานวิชาการสาขามานุษยวิทยาแล้ว เลวี่-สเตราส์ยังถือเป็นปัญญาชนผู้มีอารมณ์ขันอันคมคาย โดยเขาเคยกล่าวติดตลกถึงนามสกุลของตนเองที่ไปพ้องกับชื่อของกางเกงยีนส์ ยี่ห้อดังระดับโลกว่า "ไม่มีปีใดเลย ที่จะไม่มีคำสั่งซื้อกางเกงยีนส์ถูกจัดส่งมาที่ผม"

 

วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552

คนดีของหม่อมงามจิตต์

วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11554 มติชนรายวัน


คนดีของหม่อมงามจิตต์


คอลัมน์ โลกสองวัย

โดย บางกอกเกี้ยน




เพื่อ เป็นเกียรติประวัติของผู้ที่ทำงานรับผิดชอบต่อสังคมประเภทที่ต้องค้นหาจึงจะ พบ โดยเฉพาะผู้ได้รับการประกาศชื่อจากมูลนิธิหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ซึ่งดำเนินงานมาหลายปีแล้ว ผู้ได้รับรางวัลจะได้รับเงินรางวัลเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจรายละ 10,000 บาท ด้วย

ชุดแรก เป็นตำรวจจราจรที่ปฏิบัติงานในเขตกรุงเทพมหานครดีเด่น 10 ราย ได้แก่

1.ดาบตำรวจกฤษดา เผือกประพันธ์ สน.ชนะสงคราม ปฏิบัติงานย่านสี่แยกคอกวัว

2.ดาบตำรวจสุรีย์ ศรีสุระ สน.ประชาชื่น ปฏิบัติงานย่านรัชดาภิเษก วงศ์สว่าง ถนนประชาชื่น

3.ดาบตำรวจไพโรจน์ ชลทิศ ดอนเจดีย์ สน.ฉลองกรุง ปฏิบัติงานย่านนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง

4.ดาบตำรวจไพโรจน์ จุลพล สน.ลาดพร้าว ปฏิบัติงานย่านถนนลาดพร้าว

5.ดาบตำรวจสุทัศน์ เผ่าพันธุ์ สน.ทองหล่อ ปฏิบัติงานย่านทางลัดอโศก และสายตรวจทั่วไป

6.ดาบตำรวจพิสิษฐ์ จึงภัทรนิษฐ์ สน.ปทุมวัน ปฏิบัติงานย่านโรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวัน

7.ดาบตำรวจสมชาย ธรรมเกสร สน.บางพลัด ปฏิบัติงานย่านสี่แยกบางพลัด

8.ดาบตำรวจวิชิต ศรีอรุณเรืองทิศ สน.บุคคโล ปฏิบัติงานย่านสะพานพระราม 3

9.ดาบตำรวจปุณยคร แสงสินทรัพย์ สน.หนองค้างพลู ปฏิบัติงานย่าน ช่อง 3 และโรงเรียน

10.สิบตำรวจเอกวีระชัย กาพย์กลอน โครงการพระราชดำริ บก.จราจร ปฏิบัติงานเขต กทม.

สำหรับพนักงานกวาดถนนดีเด่น 10 ราย มีดังนี้

1.นางยุภา ฉิมเทศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ปฏิบัติงานย่านถนนดำรงรักษ์ ถนนกรุงเกษม

2.นางสุธีรา คุณอนันต์ เขตพระนคร ปฏิบัติงานย่านถนนราชินี สะพานพระปิ่นเกล้า

3.นางสำลี เนตรขำคม เขตบางกอกใหญ่ ปฏิบัติงานย่านจรัญสนิทวงศ์ซอย 7 ถึงซอย 11

4.นางปทุม แก้วพึ่งทรัพย์ เขตบางบอน ปฏิบัติงานย่านถนนกาญจนาภิเษก

5.นางพรรณี สิทธิกรรม เขตดุสิต ปฏิบัติงานย่านถนนราชวิถี จากรัฐสภาถึงแยกขัตติยานี

6.นางสาวรุ่งนภา ทองโต เขตห้วยขวาง ปฏิบัติงานย่านแยกสุทธิสารถึงธนาคารไทยพาณิชย์

7.นางกาญดา เขียวฉะอ้อน เจตจตุจักร ปฏิบัติงานย่านกรมประมงถึงศิษย์เก่า ม.เกษตรฯ

8.นางนกแก้ว จงเอี้ยง เขตหลักสี่ ปฏิบัติงานย่านแยกหลักสี่ถึงปากซอยรักวานิช

9.นางเฉลา อิ่มเจริญ เขตลาดกระบัง ปฏิบัติงานย่านถนนฉลองกรุงถึงอู่ยิ่งใหญ่ไดนาโม

10.นายใบ ศรีโยธี เขตบางนา ปฏิบัติงานย่านถนนสรรพาวุธถึงโรงเรียนรุ่งเรืองวิทยา

หวังว่าท่านผู้ว่าฯกทม. จะเพิ่มพูนประสิทธิภาพและค่าแรงให้บ้างนะครับ

ถึงรายพนักงานขับรถ ขสมก.ดีเด่น 10 คน มีดังนี้

1.นายจรัล เกตุมา สาย 522 รังสิตถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

2.นายสุรพงษ์ บุตรทองทิม สาย 168 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิถึงสวนสยาม

3.นายนราธิป โตสงคราม สาย 23 เทเวศร์ถึงสำโรง

4.นายทวน อยู่คง สาย 4 ท่าเรือคลองเตยถึงท่าน้ำภาษีเจริญ

5.นายอนัน พากเพียร สาย 20 ท่าดินแดงถึงเจดีย์

6.นายอนันต์ เอียดนุ้ย สาย 101 วัดม่วงถึงตลาดโพธิ์ทอง

7.นายไพวัลย์ พิมพ์โพชา สาย 556 สายใต้ใหม่ถึงสุวรรณภูมิ

8.นายมนูญ อนันตจิต สาย 117 ท่าน้ำนนท์ถึงศาลาว่าการ กทม.2

อีก 2 รายเป็นพนักงานขับรถร่วมบริการ คือ

1.นายเสริม ยงกลาง สาย 139 ม.รามคำแหง บางนา ถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

2.นายธวัชชัย ทางชัยภูมิ สาย 38 ม.ราชภัฏจันทรเกษมถึง ม.รามคำแหง บางนา

หน้า 21


--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
chun
http://tham-manamai.blogspot.com /sundara        
http://dbd-52hi5com.blogspot.com/ dbd_52
http://thammanamai.blogspot.com/ อายุวัฒนา
http://sunsangfun.blogspot.com/ suntu
http://originality9.blogspot.com/ originality
http://wisdom1951.blogspot.com/ wisdom

ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ "Dialogue Oasis Overnight"


 
Please visit blog.Thanks for visiting!
http://www.parent-youth.net
http://www.thaihof.org
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://elibrary.nfe.go.th
http://ilaw.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://icann-ncuc.ning.com
http://dbd-52.hi5.com
http://www.industry4u.com
http://logistics.dpim.go.th
http://weblogcamp2009.blogspot.com
http://www.educationatclick.com/th/
http://www.think.co.th/idea/?p=151


 
From: TangThai <najan67@gmail.com>
Sent: Sat, October 24, 2009 11:33:08 AM
Subject: ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ "Dialogue Oasis Overnight"

สวัสดีค่ะ ทุกท่าน

แตงได้เข้าร่วม "Dialogue Oasis Overnight" ในวันที่ 17-18 ต.ค.นี้ ที่ผ่านมา
และได้บันทึกความรู้สึกในช่วงนั้นไว้ค่ะ
จึงอยากขอส่งความรู้สึกในช่วงนั้นให้ท่านทั้งหลายได้ร่วมแลกเปลี่ยนกันค่ะ

ส่วนกระบวนการนั้น แตงไม่ได้บันทึกเอาไว้ชัดเจนนะคะ
ซึ่งแตงได้ระบุไว้ในบันทึกเช่นกันค่ะว่า
สามารถเข้าอ่านกระบวนการที่ Host คือ คุณสมพล และ ผู้ร่วมอบรมท่านอื่น
ได้บันทึกไว้เช่นกัน ได้จากที่ไหน ในบันทึก ส่วนที่ 2 นะคะ


และกำลังรวบรวม
ความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ที่ได้ส่ง mail พูดคุยกันเมื่อกลับเข้าสู่สังคมตัวเอง
ซึ่งแตงเห็นว่า แต่ละคนได้สะท้อนความประทับใจในช่วงนั้นออกมาเช่นกัน
อยู่ในระหว่างการรวบรวมค่ะ
เสร็จเมื่อไหร่จะส่งมาให้อ่านกันอีกค่ะ

และกราบขออภัยด้วยนะคะ
ถ้า mail นี้อาจจะรบกวนความเป็นส่วนตัวของบางท่าน


รักษาสุขภาพกายใจและครอบครัว ให้เข้มแข็งและแข็งแรงเสมอนะคะ

* * * * * * * * * * *
นฤมล จันทรศรี (แตง)  
Narumol Jantharasri (TangThai)
โทร. 081-3409209 ; najan67@hotmail.com
เว็บศูนย์รวม "สถาบันโยคะวิชาการ"= http://portal.in.th/thaiyogainstitute/
Feel Good = http://gotoknow.org/blog/nj-fg/toc

วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2552

กมธ.กฎหมาย สผ. เตรียมพิจารณาเรื่องการออกโฉนดที่ดินที่จังหวัดภูเก็ด

 

 

 

กมธ.กฎหมาย สผ. เตรียมพิจารณาเรื่องการออกโฉนดที่ดินที่จังหวัดภูเก็ด

16 ต.ค. 52               ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร คาด การออกโฉนดที่ดินที่ภูเก็ตอาจเป็นนิติกรรมฉ้อฉล เชื่อ มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง หลังตรวจพบมีที่ปรึกษาคณะทำงานของฝ่ายการเมืองของรมต.ช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเข้าไปเกี่ยวข้องจริง เผย เตรียมเชิญอธิบดีกรมที่ดิน และผู้ที่เกี่ยวข้องชี้แจง 21 ต.ค. นี้

                นายประชา  ประสพดี ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการพิจารณาเรื่องการออกโฉนดที่ดินที่จังหวัดภูเก็ตของบริษัทเอกชนซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ว่า กรณีดังกล่าวอาจเข้าข่ายนิติกรรมฉ้อฉล และเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยออกโฉนดที่ดินทับซ้อนบนที่ดินสาธารณะซึ่งเป็นของรัฐ และจากการตรวจสอบพบว่ามีที่ปรึกษาคณะทำงานของฝ่ายการเมืองของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวข้องด้วย โดยมีหลักฐานทั้งนามบัตร บัตรประจำตัว ที่ใช้ก่อนที่บุคคลดังกล่าวจะทำการเปลี่ยนแปลงชื่อ ทั้งนี้ กมธ.จะนำเรื่องดังกล่าวหารือในที่ประชุมคณะกรรมาธิการ ในวันพุธที่ 21 ตุลาคม  2552 เวลา 09.30 น. โดยจะเชิญอธิบดีกรมที่ดิน เจ้าพนักงานที่ดิน นายอำเภอ บริษัทไม้ขาว จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกร้องเรียน รวมทั้งฝ่ายรังวัดที่ดิน ผู้ว่าราชการจังหวัดมาชี้แจง นอกจากนี้ กมธ.จะเชิญเจ้าพนักงานปราบปรามการทุจริต ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                                                                                                อัญชิสา  จ่าภา         ผู้สื่อข่าว

                                                                                                                มันทนา  ศรีเพ็ญประภา         เรียบเรียง

 



--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
kb
http://www.healthstation.in.th/index1.html
http://camp02.blogspot.com/ camp02
http://kb1951.blogspot.com/ tkpark
http://kbparks.blogspot.com/ tkpark9
http://word1951.blogspot.com/ wordpress
http://www.baanjomyut.com/library/lotus
http://www.pwdom.com
http://weblogcamp2009.blogspot.com/2009
http://www.twitter.com/kajorn
http://www.twitter.com/BKKFlashCamp
http://camp02.readyhomepage.com
http://www.twitter.com/sun1951
http://www.twitter.com/joomlacorner
http://sun1951.vaivaitraining.com
http://sun1951.wordpress.com
http://www.educationatclick.com/th/
http://gotoknow.org/blog/krunoppol/
http://baankruaeed.wordpress.com/
http://ngaochan.hi5.com/
http://www.oknation.net/blog/subaltern
http://gotoknow.org/migrantworkers

วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ความเคลื่อนไหวเดือนตุลาฯ-รายงานวรรณกรรม

ความเคลื่อนไหวเดือนตุลาฯ-รายงานวรรณกรรม

ข่าววันที่ 11 ตุลาคม 2552 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ

รายงานวรรณกรรม

ใบบัวน้อย ลอยกลางบึง

 

ความเคลื่อนไหวเดือนตุลาฯ

 สร้างสรรค์มรดกวัฒนธรรม

เวียนมาถึงแล้วมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 14 (Book Expo Thailand 2009) มีสมาคมผู้จัดพิมพ์ผู้จัดจำ หน่ายแห่งประเทศไทยเป็นแม่งานหลัก งานนี้จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 25 ตุลาคม 2552 เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สำหรับสโลแกนปีนี้ชวนคนไทย คิดถึงของขวัญ คิดถึงหนังสือ

สัปดาห์นี้เรียกน้ำย่อยด้วยสำนักพิมพ์เรือนปัญญา กับนวนิยายชิ้นเอก Zoya ระบำชีวิต บทประพันธ์ของ DANIELLE STEEL นัก เขียนที่มีผลงานติดอันดับหนังสือขายดีทั่วโลก แปลเป็นภาษาต่างประเทศ 28 ภาษา และในจำนวนผลงานที่ผ่านมาได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์กว่า 22 เรื่อง สำหรับฉบับภาษาไทยแปลโดย เสาวณีย์ นิวาศะบุตร นักแปลอิสระ จะมีการเปิดตัวหนังสือในวันจันทร์ที่ 19 ตุลาฯ เวลา 12.00 . บริเวณเวที Hall A  

หากพูดถึงนักเขียน กวีที่ทำงานศิลปะครอบคลุมหลายด้านต้องถือว่า พิบูลศักดิ์ ละครพล เจ้าของฉายา เจ้าชายโรแมนติก ใครที่ชื่นชอบผลงานนักเขียนท่านนี้โดยเฉพาะในมุมของศิลปินภาพสีน้ำ 17 ตุลาฯ – 13 พฤศจิกายน ศกนี้ จะมีงานแสดงงาน บันทึกตะกั่วป่าในสายตาของนักเขียน สีน้ำสมัครเล่น ร้าน ณ ตะกั่วป่า ถ.ศรีตะกั่วป่า (ตลาดเก่า) อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา

ปี 2553 ครูเอื้อ สุนทรสนาน จะครบชาตกาล 100 ปี (รวมทั้ง ป.อินทรปาลิต นักเขียนหัสนิยาย จะครบ 100 ชาตกาลเช่นเดียวกัน ) และ ปี 2554 ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ได้รับขนานนามว่าเป็น เสาหลักประชาธิปไตย จะมีอายุครบ 100 ชาตกาล ท่านเป็นทั้งนักเขียน ศิลปินแห่งชาติ ผู้รอบรู้ศาสตร์หลากหลายแขนง และผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์สยามรัฐ โดยกระทรวงวัฒนธรรมได้เสนอชื่อทั้ง 2 ท่าน เป็น บุคคลสำคัญประวัติศาสตร์ของไทยและของโลก ต่อองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ที่ขณะนี้รอยูเนสโกประกาศอย่างทางการ 23 ตุลาฯ นี้

อย่าลืม สโมสรนักเขียนภาคอีสาน แจ้งสมาชิกทั้งนักเขียนอีสาน เพื่อนักเขียนอีสาน เขย สะใภ้อีสาน วันเสาร์ที่ 17 ตุลาฯ นี้ โรงเรียนซับสมบูรณ์พิทยาลัย อ.โคกโพธิ์ชัย จ.ขอนแก่น วาระ “ 20 ปีสโมสรนักเขียนภาคอีสาน" และย่างสู่ปีที่ 60 ของ สมคิด สิงสง สำหรับผู้ประสงค์ร่วมงานโปรดแจ้งประธานหน่อย สุมาลี โพธิพยัคฆ์ 089-6693921 ด่วน เพื่อตระเตรียมที่พักไว้รองรับ

เดือนตุลาฯ ถือว่าเป็นเดือนรำลึกถึงเรื่องเหตุการณ์ทางการเมืองการปกครอง ไม่ว่าจะเป็น 14 ตุลา 2516 ถัดมา 6 ตุลา 2519 และหลังสุด 7 ตุลา 2551

รำลึก 14 ตุลา ปีนี้มีกิจกรรมที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 16 สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง รศ.ดร. กุลลดา เกษบุญชู-มี้ด ปาฐกถา ความขัดแย้งทางการเมืองของไทย : ข้ามไปให้พ้นพลวัตภายใน รวมทั้งเปิดตัวหนังสือ สมุดภาพแห่งความทรงจำ จารึกประวัติศาสตร์ 14 ตุลา  โดย นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน์ ผศ.ดร.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ สว.ประสาร มฤคพิทักษ์ และ รศ.สุรัสวดี หุ่นพยนต์                    

มานิยามของคำว่า สร้างสรรค์ โดยเฉพาะเรื่อง เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ที่รัฐบาลกำลังโหมโรงอยู่ขณะนี้ ขอยกบทความ เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ของ อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักเขียนรางวัลศรีบูรพา คนที่ 14 (หน้า 6 มติชนรายวัน 28 ก.ย.  2552) เขียนไว้เสนออีกครา

ใน กลุ่มเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม อย่าคิดถึงแต่ภูมิปัญญาในการสานกระบุงตะกร้าเพียงอย่างเดียว ต้องคิดต่อไปถึงสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการหาวัสดุ, เวลาของผู้ผลิตซึ่งหมายถึงผลผลิตที่ต้องมีตลาดรับซื้อในราคาที่เป็นธรรมต่อผู้ผลิต, รวมทั้งต้องคิดถึงใจของผู้ผลิต ที่ไม่โดนหนี้ลนก้นพอที่จะคิดลวดลายแปลกใหม่จากของเดิมได้ด้วยเป็นต้น

ห้องสมุดที่เก็บเอกสารเก่า, พิพิธภัณฑ์, นิทรรศการ ต้องไม่คิดถึงการทำเงินเพียงด้านเดียว แต่จุดมุ่งหมายสำคัญก็คือให้การเรียนรู้แก่คนไทย ส่วนเรียนรู้แล้วจะเกิดการสร้างสรรค์ต่อไปอย่างไรก็อย่าห่วง เพราะวิถีแห่งการสร้างสรรค์ของแต่ละคนนั้นสลับซับซ้อนเกินกว่าใครจะวางแผน ล่วงหน้าให้คนอื่นได้

สนับสนุนการสร้างสรรค์ทางศิลปะนั้น ต้องรวมถึงสนับสนุนการคิดอย่างอิสระด้วย การตั้งคำถามกับ "วัฒนธรรมและศีลธรรมอันดีของไทย" เป็นเงื่อนไขที่ขาดไม่ได้ในการสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะอยู่ในจิตรกรรม, แฟชั่น, นวนิยาย, ละคร หรืออื่นใดก็ตามที อย่าลืมสิ่งที่เฮากินส์พูด วัฒนธรรมคือความหลากหลาย ไม่มีความหลากหลายก็ไม่มีวัฒนธรรม

ในกลุ่มสื่อของเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ การลงทุนหลักจากเงิน 20,000 ล้านบาท คือทำให้คนไทยได้มีโอกาสอ่านหนังสือ, มีรสนิยมการดูหนัง, ละครทีวี, การแสดง, การขับร้อง, ดนตรีที่หลากหลายมากขึ้น, ฯลฯ

ไล่ ลงไปถึงระบบการศึกษาของเราเอง สนับสนุนให้คนคิดต่างทำต่างหรือไม่ หรือตรงกันข้าม คือพยายามกล่อมเกลาให้คนคิดและทำให้เหมือนกัน ภายใต้การควบคุมและกำกับของผู้มีอำนาจ

สรุปง่ายๆ ก็คือคิดอะไรในเชิงสถาบันให้มากกว่าเชิงบุคคล อย่าห่วงว่าจะได้ผลตอบแทนจากเงิน 20,000 ล้านบาทคืนมาจากตัวเลขการส่งออกซึ่งสินค้าและบริการอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์เป็นเงินเท่าไร

ถ้า ไม่หลอกกันแล้ว ไม่มีใครคำนวณได้ถูกหรอก เพราะไม่มีใครรู้ว่า การสร้างสรรค์ที่อยู่เบื้องหลังสินค้าและบริการนั้นๆ มาจากไหน ที่มั่นใจได้ก็มีอยู่ทางเดียวคือ ทำให้สังคมไทยเป็นสังคมเชิงสร้างสรรค์ การคิดสิ่งใหม่ การทำสิ่งใหม่ การคิดต่างทำต่าง ถึงไม่ได้รับผลตอบแทนทันที ก็ไม่ถูกลงโทษ แต่กลับได้รับแรงจูงใจเพิ่มขึ้นให้ทำต่อไป

การลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนามีความสำคัญแก่ทุกคน แม้แต่ซาเล้งเก็บของเก่า ปัญหาอยู่ที่ว่าเขาได้รับการส่งเสริมให้ทำ R&D หรือไม่ และเมื่อสนใจจะทำแล้วได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและสังคมมากน้อยเพียงไร

ทว่า ไป การเมืองกับวัฒนธรรม เรื่องที่สามารถสอดคล้องกันได้โดยให้ความสำคัญเกี่ยวกับความรู้ ความเข้าใจให้อย่างทั่วถึง แบบไม่ต้องบังคับไปนั่งฟังตามงานสัมมนา แต่เปิดพื้นที่บรรยากาศการถกเถียงให้กล้าคิด และกล้าฝัน

พบกันใหม่สัปดาห์หน้า

 
  รูปประกอบข่าว
http://www.siamrath.co.th/uifont/NewsDetail.aspx?cid=70&nid=48163

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
http://www.thaifreedompress.blogspot.com/
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.ksmecare.com/docSeminar/520902031848987.pdf
http://www-01.ibm.com/software/th/events/lotusliveevent/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm

วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เคทีซี เปิดศูนย์บริการท่องเที่ยวเพื่อสมาชิก บริเวณ ชั้น 1 อาคารบี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ

 เคทีซี เปิดศูนย์บริการท่องเที่ยวเพื่อสมาชิก

ข่าววันที่ 8 ตุลาคม 2552 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ

 

          นาย สถาพร สิริสิงห รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส ฝ่ายการตลาดเพื่อการ สันทนาการ บมจ.บัตรกรุงไทย (เคทีซี) เปิดเผยว่า เคทีซีได้เปิดศูนย์บริการการเดินทางและท่องเที่ยวสำหรับสมาชิกเคทีซี “KTC Travel Services Center” แห่งใหม่ขึ้นภายใน เคทีซี ทัช ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯบริเวณ ชั้น 1 อาคารบี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อรองรับความต้องการด้านการเดินทางท่องเที่ยวของสมาชิกเคทีซีทุกประเภท กว่า 2.15 ล้านบัญชี ทั้งที่ทำงานและมาติดต่อราชการในศูนย์ราชการฯ แห่งนี้ รวมถึงสมาชิกที่พักอาศัยอยู่ในเขตแจ้งวัฒนะ และพื้นที่ใกล้เคียง สามารถทำธุรกรรมด้านการท่องเที่ยวได้อย่างครบวงจร อาทิ สำรองที่นั่งกับสายการบินทุกแห่ง บริการจองแพ็คเกจท่องเที่ยว รีสอร์ทหรือโรงแรม และบริการรถเช่า โดยเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป



--
ขอเชิญอ่าน  blog.Thank you so much.
chan
http://integration9.blogspot.com/ integration
http://sundara21.blogspot.com/      sandara
http://same111.blogspot.com/        culture
http://sea-canoe.blogspot.com/      seacanoe
www.pil.in.th

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552

งานรำลึก 6 ตุลา ครบรอบ 33 ปี : ประชาธิปไตยสมบูรณ์...?

วันที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2552 เวลา 23:59:49 น.  มติชนออนไลน์

งานรำลึก 6 ตุลา ครบรอบ 33 ปี : ประชาธิปไตยสมบูรณ์...?

โดย วิภา ดาวมณี

คนรุ่นใหม่ที่อายุน้อยกว่าสามสิบปีส่วนใหญ่ คงไม่รู้ว่า 6 ตุลา 2519 คืออะไร  แต่ในความทรงจำของคนรุ่นก่อน 6 ตุลา หรือคนเดือนตุลา  6 ตุลาอาจเปรียบเช่นเส้นไหมที่สวยงาม รอการถักทอเป็นผืนผ้า  หรือเปรียบดั่งลวดหนามที่ร้าวราน บ่งบอกถึงบาดแผลที่เกรอะกรัง    3 ปีที่แล้วเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์การรัฐประหารครั้งใหม่   เหตุการณ์ 6 ตุลา 2519  ก็มีส่วนช่วยในการปกป้องสังคมไทยมิให้ตกไปเป็นเหยื่อของความรุนแรง  


นับตั้งแต่ พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา ประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชมาเป็นระบอบ ประชาธิปไตย โดยเชื่อว่าเป็นระบอบการปกครองที่ดีที่สุดรูปแบบหนึ่ง เพราะคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ละเลยประโยชน์ของคนส่วนน้อย ระบอบนี้มุ่งเน้นให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมือง  

 

หากแต่ว่าการพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศไทยที่ผ่านมา 77 ปี ยังคงประสบปัญหาหลากหลายประการ ที่ทำให้การพัฒนาประชาธิปไตยไม่บรรลุผล  ขณะที่ความขัดแย้งสำแดงพลังเป็นฝักเป็นฝ่ายจนกลายปรากฏการณ์แย่งชิงมวลชน แย่งชิงพื้นที่สื่อ  


เพราะฉะนั้น วันนี้หากถามว่า ประชาธิปไตยคืออะไร ...ตรงกันข้ามกับประชาธิปไตยคือเผด็จการใช่หรือไม่ …ผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ได้มารึยัง ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพจริงหรือ...ความเสมอภาคมีหน้าตาอย่างไร...ใครกันที่ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมือง?  


เมื่อคณะราษฎรทำการปฏิวัติ คำประกาศคณะราษฎรฉบับที่ 1โดย ปรีดี พนมยงค์ ได้เขียนไว้ว่า “รัฐบาล...(ก่อนหน้าการปฏิวัติ 2475) กล่าวหมิ่นประมาทราษฎรผู้มีบุญคุณ เสียภาษีอากรให้......ได้กินว่าราษฎรมีเสียงทางการเมืองไม่ได้ เพราะราษฎรยังโง่ ถ้าราษฎรโง่ ....ก็โง่ เพราะเป็นคนชาติเดียวกัน” ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา ปัจจุบันมีการกล่าวกันว่าราษฎรไม่ควรมีสิทธิทางการเมือง ไม่ควรได้รับสิทธิเลือกตั้ง 1 สิทธิ์ 1 เสียง เพราะราษฎรโง่ จริงๆ แล้วราษฎรโง่หรือใครโง่กันแน่?


เมื่อ 33 ปีก่อนไม่ว่าจะเป็นทุนอนุรักษ์นิยม ทุนขุนนาง ขุนศึกต่างร่วมมือกันเข่นฆ่านักศึกษาประชาชนในเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519  ทุกกลุ่มมีความเห็นพ้องต้องกันว่า ไม่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่ระบอบใหม่อันเป็นระบอบประชาธิปไตยของ คนส่วนใหญ่  พวกเขาชูคำขวัญ “ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ” มาสร้างความชอบธรรมในการปราบปราม นักศึกษาประชาชนที่ชุมนุมอย่างสงบในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ใช้อำนาจป่าเถื่อน ใช้ความรุนแรงเข้า ประหัตประหาร เข่นฆ่า จับกุม ตั้งข้อหาสารพัด ทั้งข้อหากบฏ และมีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์  ประชาธิปไตยที่เบ่งบานจากการปฏิวัติ 14 ตุลา 2516 จึงตายไปพร้อมๆกันในเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519   เจตนารมณ์ของวีรชน 6 ตุลา ส่วนหนึ่งคือ การต่อต้านเผด็จการ กรณีจอมพลถนอมบวชเณรกลับเข้าไทย หลังจากถูกขับไล่ออกไปเมื่อ 14 ตุลา  แต่ การรัฐประหาร 19 กันยายน ปี 2549  ก็นำเผด็จการทหารกลับมาอีกครั้ง   คำถามคือประชาธิปไตยที่ดำรงอยู่ทุกวันนี้เป็นประชาธิปไตยของใคร 


เมื่อโลกต้องเผชิญกับวิกฤตทุนนิยม แนวคิดสังคมนิยมกำลังได้รับการรื้อฟื้น แม้ พ.ร.บ. คอมมิวนิสต์จะถูกยกเลิกไปนานแล้ว แต่วันนี้มีการปลุกผีคอมมิวนิสต์  ผ่านสื่อของฝ่ายเสื้อเหลืองและสื่อของรัฐอย่างเป็นระบบ ทั้งๆที่ไม่ว่าเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดงต่างก็มีสมาชิกเป็นอดีตคอมมิวนิสต์ อดีตคนเข้าป่า  มีการเชื่อมโยงถึงการโค่นล้มสถาบันอันเป็นที่เคารพ กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพถูกนำมาใช้จนกลายเป็นกระแส มีความพยายามยกเลิกอำนาจอธิปไตยของปวงชนไทย


จากหนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 26 เมษายน 2549 ในหลวงทรงตรัสถึงความหมายของประชาธิปไตยไว้ว่า “..... ขอยืนยันว่า มาตรา 7 ไม่ได้หมายถึงมอบให้พระมหากษัตริย์มีอำนาจที่จะทำอะไรตามชอบใจ ไม่ใช่มาตรา 7 พูดถึงการปกครองแบบมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่ได้บอกว่าให้พระมหากษัตริย์ตัดสินใจทำได้ทุกอย่าง ถ้าทำ เขาก็จะต้องว่าพระมหากษัตริย์ทำเกินหน้าที่ ซึ่งข้าพเจ้าไม่เคยขอไม่เคยทำเกินหน้าที่ ถ้าทำเกินหน้าที่ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย ” 


ขณะที่กลุ่มการเมืองฝ่ายหนึ่งกำลังสร้างสถานการณ์นำไปสู่ประชาธิปไตย สมบูรณาญาสิทธิ์  อดีตซ้ายเก่าเหมาอิสต์บางกระแสเสนอว่าต้องเร่งสร้างประชาธิปไตยนายทุนให้ เต็มใบ ทั้งๆที่สังคมไทยก็เป็นประชาธิปไตยนายทุนมานานแล้ว  ประชาธิปไตยของประชาชนคนยากคนจน คนส่วนใหญ่คงต้องรอไปก่อน... 


“แนวคิดประชาธิปไตยสมบูรณ์ของปรีดี พนมยงค์ กับเจตนารมณ์วีรชน ๖ ตุลา  ๒๕๑๙ ” คืออะไร ปาฐกถา ดร.ฐาปนันท์ นิพิฏฐกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ จะค้นคว้ามานำเสนอ ประกอบกับหนังสือเราจะต่อต้านเผด็จการได้อย่างไร โดย อ.ปรีดี พนมยงค์ในวันอังคารที่ 6 ตุลาคมปีนี้ เวลา 9.30 น.-12.00 น. ณ ห้องแอลที คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์  


ความขรุขระบนหินรูปเขื่อนสีเลือดเกรอะกรังของชิ้นงานประติมากรรม 6 ตุลา 2519 ที่หน้าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์สะท้อนให้เห็นด้านที่อัปลักษณ์ของสังคมไทย เตือนใจให้จำเหตุการณ์ทารุณโหดร้าย เตือนสติแก่ทุกคนว่าเหตุการณ์เช่น 6 ตุลาจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต 

 

6 ตุลาปีนี้ ครบรอบปีที่ 33 แล้ว อาจจะเป็นทั้งวิกฤต และโอกาส

 




อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"จตุพร"เผยเสื้อแดงเตรียมเคลื่อนไหวอีกในเดือนตุลาคม
รวมภาพคนการเมือง-ญาติวีรชน 14 ตุลาฯ ร่วมพิธีรำลึก35ปีแน่น
คลิปเสียง 14 ตุลา ถึง 6 ตุลา
ย้อนรอยเสี้ยวหนึ่งของประวัติศาตร์ 14 ตุลาต่อเนื่อง 6 ตุลา
" 6 ตุลาฯ " เหตุการณ์ที่ประวัติศาสตร์ไทย ไม่กล้าบันทึก
มธ.จัดการรำลึก 32 ปี 6 ตุลา "สุรพล"หวังไทยไม่ซ้ำรอย
"สุริยะใส"ชี้เหตุคนตายคล้าย "6 ตุลา" นายกฯต้องรับผิดชอบ
"มูลนิธิ 14 ตุลา"จัดกิจกรรมดึงเยาวชนร่วมรักษาปชต.
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1254752079&grpid=01&catid=

--
ขอเชิญอ่าน  blog.Thank you so much.
chan
http://integration9.blogspot.com/ integration
http://sundara21.blogspot.com/      sandara
http://same111.blogspot.com/        culture
http://sea-canoe.blogspot.com/      seacanoe

วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ภัยจากนามบัตร (ฝากส่งต่อเยอะ ๆ เลยนะจ๊ะ)



 
จาก: amornrat mitpaibul <amornratnoi@yahoo.com>
วันที่: ตุลาคม 5, 2009 11:04 ก่อนเที่ยง
หัวเรื่อง:  ภัยจากนามบัตร (ฝากส่งต่อเยอะ ๆ เลยนะจ๊ะ)
ถึง: 


--- On Fri, 10/2/09, Nuda SURACHAT <deeday_da@yahoo.com> wrote:


From: Nuda SURACHAT <deeday_da@yahoo.com>
Subject:  ภัยจากนามบัตร (ฝากส่งต่อเยอะ ๆ เลยนะจ๊ะ)
To:

Date: Friday, October 2, 2009, 1:15 PM



--- On Thu, 9/17/09, สิริพร ตรี <gai_kai@hotmail.com> wrote:


From: สิริพร ตรี <gai_kai@hotmail.com>
Subject:   ภัยจากนามบัตร (ฝากส่งต่อเยอะ ๆ เลยนะจ๊ะ)
To:

Date: Thursday, September 17, 2009, 3:33 AM


 

Subject:   ภัยจากนามบัตร (ฝากส่งต่อเยอะ ๆ เลยนะจ๊ะ)
Date: Wed, 16 Sep 2009 20:52:00 -0500


 

Subject: ภัยจากนามบัตร (ฝากส่งต่อเยอะ ๆ เลยนะจ๊ะ)
Date: Thu, 17 Sep 2009 08:43:03 +0700


 

Subject:  ภัยจากนามบัตร (ฝากส่งต่อเยอะ ๆ เลยนะจ๊ะ)
Date: Tue, 15 Sep 2009 09:31:22 +0700

 From: w anunt
To:  
Sent: Thursday, July 23, 2009 1:55 AM
Subject:   ภัยจากนามบัตร (ฝากส่งต่อเยอะ ๆ เลยนะจ๊ะ)


 

From: dao4747@hotmail.com
Subject: ภัยจากนามบัตร (ฝากส่งต่อเยอะ ๆ เลยนะจ๊ะ)
Date: Thu, 23 Jul 2009 08:45:41 +0000

Fw: ภัยจากนามบัตร (ฝากส่งต่อเยอะ ๆ เลยนะจ๊ะ)

หญิงคนหนึ่ง ไปเติมแก็สที่ปั้มแก็ส มีชายมาเสนอบริการทาสี โดยยื่นนามบัตรให้ หญิงคนนั้นก็รับ

มาอ่าน แล้วถือเข้ามาในรถด้วย สักครู่เมื่อขับรถออกมาจากปั้มแก็ส ก็สังเกตว่าชายคนนั้นขับรถ
ตามมา และเธอก็รู้สึกว่า หายใจไม่ค่อยออก เธอรับเปิดหน้าต่าง และตระหนักว่ากลิ่นนั้นมาจาก
มือของเธอเอง ซึ่งเป็นมือข้างที่เธอรับนามบัตรมาจากชายคนนั้น เธอตัดสินใจขับรถและกดแตรดังไปตลอดทางเพื่อขอความช่วยเหลือ ชายคนนั้นจึงขับรถหนีไปยาที่ป้ายบนนามบัตร คือ ยาBURUNDANGA เพิ่อให้เราหมดสติ ควบคุมตนเองไม่ได้ แล้วเจ้าตัวร้ายก็จะขโมยของและหรือข่มขืนเรา โดยยานี้มีประสิทธิภาพแรงกว่ายาที่ใช้ข่มขืนสาวๆ ถึง 4 เท่า
ดังนั้นอย่ารับ กระดาษ นามบัตร แผ่นพับ จากคนแปลกหน้านะจ๊ะ !!!! หรือแม้แต่คนที่แจกโฆษณา
 
ฝากส่งต่อเยอะ เลยนะจ๊ะ



แบ่งปันความทรงจำกับคนอื่นๆ ที่คุณต้องการทางออนไลน์ได้ คนอื่นๆ ที่คุณต้องการ

Bing brings you health info from trusted sources. Try it now!

แบ่งปันรูปถ่ายกันอย่างง่ายดายด้วย Windows Live™ Photos ลากแล้วปล่อย





--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.ksmecare.com/docSeminar/520902031848987.pdf
http://www-01.ibm.com/software/th/events/lotusliveevent/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm

ข่าวโลกร้อน 5 ต.ค. (เหมาะกับช่างภาพ เดินขบวนใหญ่ทุกกลุ่ม)



 
From: sataya phongsasumitr <satayap@hotmail.com>
Date: ต.ค. 4, 2009 6:29 หลังเที่ยง
Subject: หมายข่าวโลกร้อน 5 ต.ค. (เหมาะกับช่างภาพ เดินขบวนใหญ่ทุกกลุ่ม)
To:
หมายข่าวจันทร์ 5 ต.ค. (เดินขบวนใหญ่ที่สุดของภาคประชาชนไทย อาเซียน โลกร่วมกันสำหรับงานโลกร้อน จำนวนคนคาดว่ากว่า 1500 คน)
 
Asian People's Solidarity for Climate Change March
เดินขบวนใหญ่ระดับเอเชีย ภาคประชาชน เอ็นจีโอไทยและโลกร่วมด้วย
08.30 รวมตัวสวนสันติชัยปราการ
09.00 ออกเดินไป ตึกยูเอ็น แถลงข่าวถึงราว 1200
 
 
 
 


Windows Live: Make it easier for your friends to see what you’re up to on Facebook.


--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.ksmecare.com/docSeminar/520902031848987.pdf
http://www-01.ibm.com/software/th/events/lotusliveevent/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm

วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2552

"สุรัตน์ โหราชัยกุล" ไขปริศนา "เศษดอลลาห์มะกัน"

วันที่ 02 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11528 มติชนรายวัน


"สุรัตน์ โหราชัยกุล" ไขปริศนา "เศษดอลลาห์มะกัน"


สัมภาษณ์

โดย พนัสชัย คงศิริขันธ์




บทความของ "ฮันนาห์ บีช" ผู้สื่อข่าวของไทม์ได้กล่าวอ้างถึงในนิตยสารรายสัปดาห์ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า ขณะนี้สหรัฐกังวลกับสถานการณ์การเมืองไทยจนต้องตัดสินใจมอบเงินทุนสนับสนุน จำนวนกว่า 280 ล้านบาท ผ่านทางสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกาหรือยูเสด (USAID-United States Agency for International Development) เพื่อดำเนินการสร้างประชาธิปไตยขึ้นในไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมายาวนานเกือบ 15 ปีแล้ว

สำหรับ "ยูเสด" เป็นองค์กรคล้ายๆ รูปแบบมูลนิธิที่ได้เงินภาษีจากประชาชนอเมริกันมาช่วยมวลมนุษยชาตินี้จะที่ มีหน้าที่อย่างไร และเชื่อมโยงต่อการเมืองไทยอย่างไรนั้น

"สุรัตน์ โหราชัยกุล" ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไขข้อกังวลที่หลายฝ่ายอาจมีความเป็นห่วงว่า "ดี" หรือ "เสีย" หากไทยจะยื่นมือไปรับเงินทุนของ "ยูเสด" เพื่อมาฟื้นฟูประชาธิปไตยไทย

ยูเสดเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่สำคัญอย่างไรต่อการช่วยเหลือประเทศต่างๆ

ยูเสดถูกจัดตั้งภายใต้ พ.ร.บ.การช่วยต่างประเทศ ในปี ค.ศ.1961 หลังจากนั้นก็มีวิถีการช่วยเหลือต่างๆ จนขณะนี้จะเห็นว่ายูเสดมีหมวดหมู่ภายใต้การช่วยเหลือ คือ
1.เกษตรกรรม
2.ประชาธิปไตย
3.ระบบธรรมาภิบาล
4.การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการค้า
5.สิ่งแวดล้อม
6.การศึกษา
7.สุขภาพ และ
8.อื่นๆ

ยูเสดมีการวางยุทธศาสตร์ที่วางไว้โดยแบ่งแค่ 5 หัวข้อหลัก คือ
1.สันติภาพ และความมั่นคง
2. การปกครองที่ยุติธรรมเป็นไปอย่างประชาธิปไตย
3.การลงทุนในประชาชนเช่นการศึกษา สุขอนามัย
4.การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และ
5.ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ดังนั้น หน้าที่หลักของยูเสด คือฟื้นฟูประชาธิปไตยด้วย ซึ่งการเอางบประมาณไปให้ประเทศใดต้องมีนัยยะ และการให้เงินต้องมีผล ถ้าให้ไม่เกิดผลจะโดนด่าเพราะให้แล้วไม่มีประโยชน์

ให้เงินทุนแก่ประเทศใดบ้างนอกจากไทย

หากจะเห็นความเร่งรีบการให้และมองว่าควรให้เงินบริจาคแก่ประเทศไหนเป็นพิเศษ นั้นก็ดูได้จากปัจจุบันมีกลุ่ม 10 ประเทศ ที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากยูเสด โดยเป็นข้อมูลล่าสุดรายงานเมื่อปี 2551 ซึ่งไม่ได้มีประเทศไทยอยู่ในกลุ่มดังกล่าว โดยประเทศที่ได้รับเงินช่วยเหลือมากที่สุด คือ
-อัฟกานิสถาน 1,446 ล้านเหรียญ
-อิรัก 1,243 ล้านเหรียญ
-อียิปต์ 606 ล้านเหรียญ
-ปากีสถาน 458 ล้านเหรียญ
-ซูดาน 382 ล้านเหรียญ
-เคนยา 289 ล้านเหรียญ
-จอร์แดน 280 ล้านเหรียญ
-แอฟริกาใต้ 250 ล้านเหรียญ
-เอธิโอเปีย 214 ล้านเหรียญ
-ยูกันดา 204 ล้านเหรียญ
-อินโดนีเซีย 192 ล้านเหรียญ
โดยกลุ่ม 10 ประเทศนี้พบว่ามี 6 ใน 10 เป็นประเทศมุสลิม และยังเป็นตัวเลขของเงินที่ได้รับจากยูเสดถึงจำนวน 5,564 ล้านเหรียญ ซึ่งมากกว่าที่ไทยได้รับอยู่ในขณะนี้ และรวมทั้งโลกยังมีถึงอีก 120 ประเทศ ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากยูเสด 7,070 ล้านเหรียญ

ยูเสดหยุดให้เงินทุนแก่ไทยมานานกว่า 15 ปี แล้วแต่มีสาเหตุใดที่ต้องกลับมาจัดสรรให้ไทยอีก

ไทยได้รับเงินจากยูเสดในครั้งนี้ที่ประมาณ 30-40 ล้านเหรียญ ในระยะเวลา 5 ปีคือ ปี 2553-2558 แต่ประเทศไทยจะไม่ได้รับเงินที่เข้าลักษณะของ 10 ประเทศข้างต้น เพราะไทยหยุดความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีกับสหรัฐ ในเชิงของความช่วยเหลือที่ไม่นับการฝึกอบรม มีการหยุดให้เงินแบบนี้มาตั้งแต่ ค.ศ.1995 แล้ว ดังนั้น ทำไมยูเสดถึงกลับมาให้เงินช่วยเหลือกับไทยอีก โดยเอกสารจากสื่อมวลชนของสหรัฐให้เหตุผลประการหลักคือ ความไร้เสถียรภาพทางการเมือง และสิ่งที่เรียกว่ากระบวนการรุนแรงแบบมุสลิมที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจะทำให้อย่างไรไม่ให้รัฐประหารต้องเกิดขึ้นได้อีก

ในอดีตเคยให้เงินทุนกับไทยหลายครั้งหรือไม่

ผมจำได้ว่าเคยให้กับไทยก่อนหน้านั้น และให้เยอะมากในช่วงสงครามเย็นที่ช่วงนั้นประเทศไทยเป็นพันธมิตรกับสหรัฐ อีกทั้งการให้เงินดังกล่าวจะต้องมีมูลเหตุก่อน ซึ่งไม่จำเป็นต้องเข้าไปคุยกับยูเสด แต่เป็นการทำงานบนพื้นฐานของสถานทูตของสหรัฐด้วย และสถานทูตสหรัฐก็เฝ้าจับตามองประเด็นเสื้อเหลืองและเสื้อแดงละเอียดกว่าทุกสถานทูต เพราะเมื่อครั้งสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตั้งแต่การฆ่าตัดตอน หากยังจำกันได้ พ.ต.ท.ทักษิณเคยเรียกทูตไปว่าด้วย

แต่รัฐบาลอ้างว่างบฯ 280 ล้านบาทที่ได้รับยังไม่ได้ใช้

ท้ายที่สุดรัฐบาลต้องรับรู้เมื่อมีการให้เงินดังกล่าวมาในไทย แต่จะผ่านกระทรวงการต่างประเทศหรือทางไหนก็ต้องว่ากันไป แต่หากรัฐบาลอ้างว่าเงินดังกล่าวไม่ได้รับรู้เลยก็คงจะไม่ได้ และอาจจะเป็นไปได้ว่าองค์กรอื่นอย่างเอ็นจีโอก็อาจจะนำไปใช้ แต่หากรัฐบาลได้งบฯดังกล่าวมาใช้ก็ต้องแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบและควรเปิดพื้นที่ให้มีการถกเถียงด้วย

หากไทยรับเงินคงการันตีสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณอ้างได้ว่าประชาธิปไตยของไทยถอยหลังในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา

หากเข้าใจว่าการรัฐประหารเป็นความล้าหลังก็เข้าใจได้ แต่ไม่ควรเข้าใจอย่างนั้น เพราะคุณทักษิณก็ไม่ได้ทำถูกต้องทั้งหมด โดยเฉพาะการละเมิดสิทธิมนุษยชนการประกาศสงครามต่อต้านยาเสพติด ที่ทำให้การเกิดฆ่าตัดตอน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาธิปไตยถอยหลังเข้าคลองได้เหมือนกัน และคุณทักษิณมาจากการเลือกตั้งที่มาจากรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ฝรั่งชมว่าก้าวหน้ามาก ซึ่งคนที่มาจากการเลือกตั้งกลับกระทำผิดเสียเองด้วย

แม้ไม่มีการรัฐประหารแล้วรัฐบาลทักษิณยังอยู่เป็นไปได้ที่จะให้เงินกับไทย

อาจจะจัดสรร แต่คุณทักษิณไม่เอา เพราะสถานทูตสหรัฐเคยเขียนรายงานเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลทักษิณ ทำให้คุณทักษิณค่อนข้างโกรธ ซึ่งอาจทำให้สหรัฐต้องคำนวณจังหวะด้วยว่ายังไม่ควร หรือหากส่งเงินมาคุณทักษิณก็คงไม่เอา เพราะอย่างเงินช่วยเหลือตอนประสบภัยสึนามิคุณทักษิณยังไม่ยอมรับความช่วยเหลือ

รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็นปัจจัยหลักที่ให้เงินกับไทยครั้งนี้

เราไม่รู้ใจจริงยูเสดคิดไง เพราะการจะเอาเงื่อนไขรัฐประหารมาเป็นเหตุผลการให้เงินกับไทย บางคนก็บอกสมเหตุผล เพราะก่อนหน้านี้ไทยไม่ได้มีการรัฐประหารมานานแล้ว แต่ดันมาเกิดขึ้นอีก

คงต้องประเมินไทยด้วยว่าใช้เงินได้คุ้มค่าหรือไม่ และอาจถูกมองว่าเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในไทยได้

จะใช้แล้วหากไม่ประเมินก็ไม่ถูก เพราะยูเสด ก็โฆษณาว่า USAID FROM AMERICAN PEOPLE เป็นเงินภาษีของคนอเมริกันบ้านเขาเสียเงินภาษีมาให้เรา และหากให้เงินมาแล้วใช้ไม่เกิดประโยชน์ทางยูเสดก็คงไม่กล้าปล่อยให้รัฐบาลไป ทำผิดเงื่อนไขแต่แรกแน่ เพราะหากปล่อยให้ทำผิดเงื่อนไขการรับเงินยูเสดจะถูกคนสหรัฐด่าแน่ว่ายูเสด โง่ หากจะมองว่าเข้ามาแทรกแซงกิจการในไทยนั้น หากเขาต้องการประเมินก็เป็นเรื่องดีอยู่แล้ว เป็นการตรวจสอบเพื่อให้ใช้เงินดังกล่าวให้ถูกต้อง เป็นการดี

ที่ผ่านมาไทยใช้เงินเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประชาธิปไตยแค่ไหน

ที่ผ่านมาจะใช้ในมารูปแบบทุนการศึกษา แต่มาวันนี้เราเห็นประเด็นปัญหาที่สมัยก่อนทุนการศึกษาเป็นเรื่องของการ พัฒนาประเทศ มุ่งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ในอดีตก็มีได้งบฯไปพัฒนาด้านเกษตรกรรม

ดูเหมือนว่า 3 ปีที่ผ่านมา ประเทศเรามีปัญหาเรื่องระบบธรรมาภิบาลจึงทำให้ยูเสดต้องยื่นมือเข้ามาช่วยไทย

สิ่งที่สีแดงพูดบอกว่าไม่ยุติธรรม สีเหลืองยึดสนามบินยังบอกว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งเราต้องยอมรับว่าระบบเรามีปัญหา หากประเทศใดไม่มีหลักนิติรัฐต่อให้มีผู้นำดีหรือไม่ดีก็ไม่สำคัญเท่าระบบ ยุติธรรม ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญกว่ารัฐบาล แม้จะยังไม่มีรัฐบาลแต่หากประเทศดำเนินไปได้ถ้าหากมีนิติรัฐและนิติธรรมก็ทำ ให้ไปข้างหน้าได้ ซึ่งแรลลี่ แดมอน ที่เป็นนักประชาธิปไตยกระแสหลักของ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐ พูดว่าประชาธิปไตยจะอยู่ได้หรือไม่ต้องมีธรรมาภิบาล

แม้จะมีผู้นำที่ดีแต่หากหลักนิติรัฐและนิติธรรมของประเทศยังสั่นคลอนการพัฒนาประชาธิปไตยก็ลำบากได้

แม้ตัวผู้นำจะไม่ไปกระทำผิดก็ยังไม่พอ เพราะปัญหาอยู่ที่ประชาชนคาดหวังว่าจะมีหลักนิติรัฐ แต่บางกรณีมีคดีประชาชนบอกว่าผิด แต่มันไม่ผิด ก็เกิดความคาใจ เมื่อคาใจก็ยุ่ง แม้บางประเทศจะมีความยุติธรรมบกพร่องได้ไหมคือ ทำได้เพราะในยุโรปก็มีอเมริกาก็มี แต่มันต้องมีการบกพร่องที่ไม่ถี่ และมันต้องวิพากษ์ไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่บ้านเราไม่ใช่แค่ไม่สมบูรณ์ แต่กระบวนการยุติธรรมบกพร่องกลับถี่ ทำให้ความศรัทธาประชาชนก็แย่ไป ส่วนในต่างประเทศก็มีของกรณีอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ก็มีคดีหลุดไปผ่านไป ลืมไป คล้ายๆ กันเยอะ ในกรณีของประเทศพัฒนาแล้วค่อนข้างจะหลุดคดีได้ยาก

รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้คำมั่นจะเร่งฟื้นฟูประชาธิปไตยให้กลับมา ซึ่งมีสิทธิปฏิเสธไม่รับเงินทุนได้หรือไม่

รัฐบาล มีสิทธิไม่ต้องการรับได้ โดยการใช้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศบอกกันว่าเรายังเป็นมิตรที่ดีต่อกัน เพราะการทำแบบนี้เราไม่ชอบมันเหมือนรู้สึกเสียหน้า ซึ่งทางยูเสดอาจจะฟังก็ได้ แต่ผมบอกว่าจำเป็นต้องมองอย่างนั้นด้วยเหรอ เราอยากได้เงินไหมเราก็อยากได้ เพราะการได้เงินมาก็เพื่อมาพัฒนาให้ประเทศดีขึ้นแล้วทำไมไม่เอา ผมว่าไม่เห็นแปลกตรงไหน แต่บางทีเรากลับไม่ใจกว้างมองผ่านพรหมแดนระหว่างชาติ

โดยส่วนตัวมองว่าแม้เพิ่งผ่าน 19 กันยายน 49 ไทยควรรับเงินบริจาค

ถ้า ยูเสดให้เงินแล้วบีบให้เราทำอะไรที่ไทยไม่ชอบ ผมว่าเอาเงินของยูเสดคืนดีกว่า แต่ถ้าเขาอยากจะให้ไทยด้วยใจจริงก่อให้เกิดประชาธิปไตยขึ้นมา ผมว่ารัฐบาลควรเอามาใช้แล้วต้องบอกประชาชนว่าใช้อย่างไร ดังนั้น ถ้ายูเสดให้เงินแล้วไม่มีเงื่อนไขอะไรก็ควรน่าจะนำมาใช้

รัฐบาลอาจจะ น่ารักเป็นคนดีใช้เงินทางที่ดี แต่ท้ายที่สุดต้องหลีกเลี่ยงการใช้เงินดังกล่าวเอง และควรให้หน่วยงานต่างๆ เป็นผู้นำเงินดังกล่าวไปใช้แล้วให้องค์กรเหล่านั้นออกแบบ ว่าจะทำอะไร ตัวชี้วัดคืออะไร จะได้มีประโยชน์ ซึ่งจะลงทุ่มใส่กับการศึกษาอย่างเดียวไม่ได้

280 ล้านบาทที่ไทยได้รับใน 5 ปี นี้จะพอมีหวังว่าความสมานฉันท์ของไทยจะกลับคืนมา

เรา อย่าไปคิดว่า ความแตกแยกมันจะจบหรือไม่แต่ความแตกแยกมีเหตุผลเพื่อให้สังคมเกิดกระบวนการขัดเกลา เพราะจะทำให้เสื้อเหลืองและเสื้อแดงต้องทบทวนตัวเอง แต่เงินและทรัพยากรของยูเสดที่เข้ามาสามารถช่วยให้เราผลักดันได้มากกว่าเดิม ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว และไม่จำเป็นต้องมารักกันกอดกัน แต่แค่เข้าไปเอื้ออำนวยก็สำเร็จแล้ว ซึ่งดีกว่าไม่ทำอะไร ดังนั้น อย่ามองความขัดแย้งเป็นแง่ร้ายไปหมด ซึ่งเงินจำเป็นต้องมีเพื่อให้เกิดการขัดเกลาให้ประเทศเราเดินไปข้างหน้าได้


หน้า 11