ชมพุทธประวัติ ฉบับการ์ตูน

Art of Asia: Buddhism - The Art of Enlightenment

ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)

การแนะแนว"อนาคตประเทศไทยกับ 10 อาชีพสุดฮิพ"จัดโดยมูลนิธิไทยคม 10-11 ต.ค.52

Bookmark and Share

วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552

[Food not Bombs Thailand] Fwd: [prakaifire] เชิญร่วมกิจกรรมเสวนา "สืบสานเจตนารมณ์ 6 ตุลากับความรุนแรงที่ไม่เคยจางหายไปจากกรรมกร"



 
จาก: Suluck Lamubol <suluck@gmail.com>
วันที่: กันยายน 30, 2009 8:28 หลังเที่ยง
หัวเรื่อง: [Food not Bombs Thailand]  [prakaifire] เชิญร่วมกิจกรรมเสวนา "สืบสานเจตนารมณ์ 6 ตุลากับความรุนแรงที่ไม่เคยจางหายไปจากกรรมกร"
ถึง: food-not-bombs-thailand@googlegroups.com




 
From: นางสาวจิตรา คชเดช <ning2475@hotmail.com>
Date: 2009/9/30
Subject: [prakaifire] เชิญร่วมกิจกรรมเสวนา “สืบสานเจตนารมณ์ 6 ตุลากับความรุนแรงที่ไม่เคยจางหายไปจากกรรมกร”
To: 

สทอท. ที่ 0093/2552

 

29 กันยายน 2552

เรื่อง เชิญร่วมกิจกรรมเสวนา “สืบสานเจตนารมณ์ 6 ตุลากับความรุนแรงที่ไม่เคยจางหายไปจากกรรมกร”

เรียน ทุกท่าน

สิ่งที่แนบมาด้วย รายละเอียดกิจกรรมเสวนา “สืบสานเจตนารมณ์ 6 ตุลา ความรุนแรงไม่เคยจางหายไปจากกรรมกร”

เนื่องจากวันที่ 6 ตุลาคม 2552 นอกจากจะเป็นวันครบรอบ 33 ปี เหตุการณ์ความรุนแรงขบวนการขวาพิฆาตซ้ายจากการที่เจ้าหน้าที่รัฐและกลุ่มที่รัฐให้การสนับสนุน ได้เข้าไปล้อมจับกุมและสังหารนักศึกษาและประชาชนภายใน บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งกำลังชุมนุมประท้วงเพื่อขับไล่ให้จอมพลถนอม กิตติขจรออกนอกประเทศแล้วนั้น  ในวันดังกล่าวยังเป็นวันครบรอบ 99 วันของการชุมนุมหน้าโรงงานของสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย ซึ่งตลอดระยะเวลาของการชุมนุมก็เผชิญกับความรุนแรงหลากหลายรูปแบบ

ด้วยเหตุนี้ทางสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ พร้อมด้วยองค์กรเพื่อนมิตรจึงร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรุนแรงที่ถูกกระทำโดยรัฐ  และเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในเจตนารมณ์ของนักศึกษาและประชาชนที่ถูกปราบปรามในเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 รวมถึงเพื่อให้เกิดการสรุปเป็นบทเรียนและมาตราการในการป้องกัน จัดการกับความรุนแรงดังกล่าวร่วมกัน  จึงได้จัดกิจกรรม เสวนา ภายใต้หัวข้อ “สืบสานเจตนารมณ์ 6 ตุลากับความรุนแรงที่ไม่เคยจางหายไปจากกรรมกร” ขึ้น  พร้อมด้วยกิจกรรมการแสดงดนตรีของนักศึกษาสลับกับการปราศรัยของผู้นำกรรมกรต่างๆ  ณ ที่ชุมนุมหน้าโรงงาน นิคมอุตสาหกรรมเมืองใหม่บางพลี ซอย 7 อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่เวลา 17.00 – 20.00 น.

จึงเรียนมาเพื่อเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรมในวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว

 

ขอแสดงความนับถือ

 

ธัญญยธรณ์ คีรีถาวรพัฒ์

รองประธานสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย



จิตรา  คชเดช (หนิง)
สหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย
087-020 - 6672
Skype : Jittra08






เพิ่มแผนที่และทิศทางไปสู่งานปาร์ตี้ของคุณ แสดงเส้นทาง!




--
Suluck Lamubol (Fai)

Chulalongkorn University Student
Student Federation of Thailand

Email: Suluck@gmail.com
MSN: suluck_fai@hotmail.com
Skype: fai.suluck

--~--~---------~--~----~------------~-------~--~----~
You received this message because you are subscribed to the Google Groups "Food not Bombs Thailand" group.
To post to this group, send email to food-not-bombs-thailand@googlegroups.com
To unsubscribe from this group, send email to food-not-bombs-thailand+unsubscribe@googlegroups.com
For more options, visit this group at http://groups.google.com/group/food-not-bombs-thailand?hl=en
-~----------~----~----~----~------~----~------~--~---




--
ขอเชิญอ่าน  blog.Thank you so much.
chan
http://integration9.blogspot.com/ integration
http://sundara21.blogspot.com/      sandara
http://same111.blogspot.com/        culture
http://sea-canoe.blogspot.com/      seacanoe

ขรก.บำนาญเฮ!รับบำเหน็จตกทอดทุกเดือน


 

วันที่ 01 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6881 ข่าวสดรายวัน


ขรก.บำนาญเฮ!รับบำเหน็จตกทอดทุกเดือน




น.พ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) แก้กฎหมายเพื่อช่วยเหลือผู้รับบำนาญให้ได้รับเงินเพิ่มขึ้นจากเงินบำเหน็จ ดำรงชีพ ตลอดจนลดความยุ่งยากภาระเอกสารของผู้รับบำนาญและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยการเสนอแก้กฎหมายนี้ จะรวมเงินบำนาญและเงินเพิ่มค่าครองชีพเข้าด้วยกันจะช่วยส่งผลให้ผู้รับบำนาญ ได้รับเงินสูงขึ้น จากเงินบำเหน็จดำรงชีพ หรือเงินที่ผู้รับบำนาญสามารถนำเงินบำเหน็จตกทอดมาใช้ได้ก่อนเสียชีวิต จากเดิมที่เงินบำเหน็จตกทอดจะเป็นของทายาทหรือผู้ที่ได้รับสิทธิ ตลอดจนลดความยุ่งยาก ภาระเอกสารของผู้รับบำนาญและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในการแก้กฎหมายเรื่องนี้จะต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้น 2,135.5 ล้านบาท

ทั้ง นี้ ปัจจุบันผู้รับเบี้ยหวัดและผู้รับบำนาญได้รับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ย หวัดบำนาญ (เงิน ช.ค.บ.) แยกออกจากบำนาญหรือเบี้ยหวัด ทำให้การเบิกจ่ายเงินแก่ผู้รับเบี้ยหวัดและผู้รับบำนาญในแต่ละเดือนมีความ ยุ่งยาก มีขั้นตอนดำเนินงานเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งส่งผลให้ผู้รับบำนาญได้รับบำเหน็จดำรงชีพน้อยลง เนื่องจากบำเหน็จดำรงชีพ กฎหมายกำหนดให้จ่ายได้ไม่เกิน 15 เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับหรือมีสิทธิได้รับ ซึ่งหลังจากแก้กฎหมายแล้วจะทำให้บำเหน็จดำรงชีพ สามารถจ่ายได้สูง สุดไม่เกิน 15 เท่าของบำนาญรายเดือนที่รวมเงิน ช.ค.บ. ซึ่งสูงกว่าบำนาญรายเดือนอย่างเดียว


หน้า 8


 /

จ่อจับเพิ่มโจ๋ร่วมขยี้สาวบอดใบ้ พี่ชายรับถ่ายคลิปไว้ขู่คู่ขากันบอกเลิก

วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552 เวลา 17:42 น.  ข่าวสดออนไลน์


จ่อจับเพิ่มโจ๋ร่วมขยี้สาวบอดใบ้

พี่ชายรับถ่ายคลิปไว้ขู่คู่ขากันบอกเลิก

     จากกรณีนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรี พร้อมคณะทำงาน นายชาคร วัฒนสินธุ์ นายอำเภอบ้านหมอ พ.ต.ท.ณรงค์ แสวงจิตต์ รอง ผกก.สส.สภ. บ้านหมอ จ.สระบุรี เดินทางมายังบ้านเลขที่ 30/2 หมู่ 3 ต.หรเทพ อ.บ้านหมอ หลังได้รับจดหมายร้องเรียนจากชาวบ้านว่าที่บ้านหลังดังกล่าว ได้มีหญิงพิการซ้ำซ้อน เป็นใบ้ ตาบอด หูหนวก สติไม่สมประกอบ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ถูกคนร้ายรุมโทรมข่มขืนจนตั้งครรภ์ โดยให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลบ้านหมอ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุม นายนภ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี พี่ชายของ น.ส.เอ (นามสมมติ) สาวพิการซ้ำซ้อนที่ถูกข่มขืนจนตั้งท้อง พร้อมจับกุม นายอานุช วงษ์เหมือน อายุ 32 ปี แฟนของนายนภแบบรักร่วมเพศ พร้อมของกลางคลิปวีดิโอขณะนายอานุชข่มขืนน.ส.เอ โดยนายนภเป็นคนใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายไว้ กลายเป็นหลักฐานมัดทั้งสองคน ตามที่เสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น

 

     เมื่อวันที่ 30 ก.ย. นายธีรพงษ์ ศรีสุคนธ์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ 62  อ.พระพุทธบาท  จ.สระบุรี ส่งคณะเจ้าหน้าที่ นำตัว นางสาวเอ ไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์คนพิการและทุพพลภาพ บ้านปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ได้ประสานงานกับนางนภา เศรษฐกร รองปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

     ขณะเดียวกัน ที่ สภ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ร.ต.ท.พณวรรณ มาตราช ร้อยเวร สภ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ได้สอบปากคำ นายนภและนายอานุช เพิ่มเติม โดยได้ซัดทอดถึง วัยรุ่นคนหนึ่ง ว่าได้ข่มขืนน.ส.เอก่อนที่พวกตนจะก่อเรื่องอดสูขึ้น ทั้งยังมีพยานปากเอกให้การว่า เคยขึ้นไปบนบ้านเจอจะจะว่าวัยรุ่นคนนี้กำลังข่มขืนน.ส.เอบนบ้านแต่ไม่กล้า บอกใคร เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้ายและพบเห็นขึ้นไปกระทำเช่นนี้เป็นประจำ ซึ่งเจ้า หน้าที่ตำรวจเตรียมรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับแล้ว และก่อนนี้ได้เจาะเลือดผู้ต้องสงสัยรวมทั้ง นายอานุชและนายนภ รวมทั้งหมด 4 คน เพื่อเตรียมไว้พิสูจน์หลักฐานข้อเท็จจริงด้วย

 

     นายนภ ยอมรับว่า ถ่ายคลิปวีดิโอไว้ ส่วนหนึ่งนั้นต้องการเก็บไว้เป็นหลักฐานมัดตัวนายอานุช เพื่อมิให้ทิ้งตนเองไป มิฉะนั้นจะใช้คลิปวีดิโอนี้เล่นงาน แต่ไม่คิดว่าจะลงเอยแบบนี้

 

     ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำทั้งสองไปทำแผนข่มขืนตั้งแต่ช่วงเช้ามืดแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 ทุกรุมประชาทัณฑ์


http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRJMU5ETXdOelV3T1E9PQ==

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
kb
http://camp02.blogspot.com/ camp02
http://kb1951.blogspot.com/ tkpark
http://kbparks.blogspot.com/ tkpark9
http://word1951.blogspot.com/ wordpress
http://www.baanjomyut.com/library/lotus
http://www.pwdom.com
http://weblogcamp2009.blogspot.com/2009
http://www.twitter.com/kajorn
http://www.twitter.com/BKKFlashCamp
http://camp02.readyhomepage.com
http://www.twitter.com/sun1951
http://www.twitter.com/joomlacorner
http://sun1951.vaivaitraining.com
http://sun1951.wordpress.com
http://www.educationatclick.com/th/

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552

รองประธานคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ฯ แนะ รัฐตั้งอนุกรรมาธิการพิจาณาวิทยุชุมชนที่มีเครือข่าย

 

 

 

รองประธานคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ฯ แนะ รัฐตั้งอนุกรรมาธิการพิจาณาวิทยุชุมชนที่มีเครือข่าย

22 ก.ย. 52 -             รองประธานคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ฯ วุฒิสภาเผย เครือข่ายผู้ประกอบการวิทยุชุมชนที่มีความตั้งใจทำประโยชน์ต่อสังคมกำลังได้รับผลกระทบจากหลักเกณฑ์ของ พรบ. ประกอบกิจการกระจายเสียงฯ  พร้อมแนะรัฐบาลตั้งอนุกรรมาธิการ เพื่อพิจารณาวิทยุชุมชนในลักษณะเครือข่าย เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการ และป้องกันข้อจำกัดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

นายอนันต์  วรธิติพงศ์ รองประธานคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสารและโทรคมนาคม วุฒิสภา กล่าวว่า การประกาศใช้ พรบ. ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2551 ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการวิทยุชุมชนที่เป็นเครือข่าย เพราะมีการดำเนินการที่ขัดกับหลักเกณฑ์ที่ พรบ.ได้กำหนดไว้  และที่ผ่านมาทางกรรมาธิการฯ ก็ได้รับการร้องเรียนจาก มูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชนในพระอุปถัมภ์ ที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงกันหลายมูลนิธิ ถึง 117 สถานีที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศใช้ พรบ. ดังกล่าวเช่นกัน

                นายอนันต์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวเห็นว่า นอกจากการแต่งตั้งอนุกรรมาธิการ เพื่อพิจารณาผู้ประกอบการวิทยุชุมชนโดยทั่วไปแล้ว  ตนก็อยากเสนอให้รัฐบาลตั้งอนุกรรมาธิการขึ้นมา เพื่อพิจารณากรณีผู้ประกอบการที่ดำเนินการวิทยุชุมชนในลักษณะเครือข่ายด้วย เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการที่ตั้งใจเผยแพร่สิ่งดี ๆ สู่สังคม โดยไม่ขัดกับข้อกฎหมาย  และป้องกันข้อจำกัดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

 

 

               

 

เรณู  เขมาปัญญา  /  ผู้สื่อข่าว

มันทนา  ศรีเพ็ญประภา/ เรียบเรียง

 

 

                               



--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/
http://newsblog9.blogspot.com/
http://bloghealth99.blogspot.com/
http://labour9.blogspot.com/
http://www.ksmecare.com/docSeminar/520902031848987.pdf
http://www-01.ibm.com/software/th/events/lotusliveevent/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html

กมธ. ท่องเที่ยว เตรียมจัดงาน Siam International Bike Week 2009 ในวันที่ 28 พ.ย. นี้

 

 

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                     

กมธ. ท่องเที่ยว เตรียมจัดงาน Siam International Bike Week 2009   ในวันที่ 28 พ.ย. นี้

22 ก.ย. 52 -             กรรมาธิการการท่องเที่ยว และกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับ ภาครัฐและเอกชน เตรียมจัดงาน  Siam International Bike Week 2009   ในวันที่ 28 พ.ย. นี้ เพื่อ ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นแหล่งขับขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวในระดับสากลของเอเชีย  และหวังเป็นส่วนหนึ่งในการหารายได้มาบำรุงรักษา รถอัศวินฮาเลย์ 8 คัน ให้กลับมานำขบวนเสด็จได้อีกครั้ง

คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว และกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับ บริษัท บีบี ดับบลิว กรุ๊ป จำกัด                การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย   พร้อมทั้งภาครัฐ และเอกชน หลายหน่วยงาน อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ศูนย์      ประสานงานประชาชนและอาสาสมัครช่วยงานตำรวจ  (ศปช.ตร.)  โออิชิ     นิสสัน ดีเซล   พานาโซนิค    เตรียมจัดงาน  Siam International Bike Week 2009  ในวันที่ 28 พ.ย. นี้  ที่ สยามสแควร์   เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นแหล่งขับขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวในระดับสากลของเอเชียที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กิจกรรม Ride For The King  ที่มุ่งสร้างความสามัคคีของคนในชาติโดยให้นักขับขี่แต่งชุดเป็นสีธงชาติไทย ขับขี่เป็นริ้งธงชาติไทยไปตามท้องถนนของกรุงเทพมหานคร จำนวน 250 คัน

ทั้งนี้ ภายในงานจะประกอบด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย   โดยจะมีนิทรรศการ รถอัศวิน ซึ่งเป็นรถนำขบวนเสด็จของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และเป็นรถฮาร์เลย์ เดวิดสัน รุ่นแพนโอเวลปี 1973 จำนวน 4 คัน จาก 8 คัน ที่ได้รับการบำรุงรักษาจนกลับมานำขบวนเสด็จได้อีกครั้ง  ซึ่งทางคณะผู้จัดงานหวังจะนำรายได้จากการจัดกิจกรรมส่วนหนึ่งมาบำรุงรักษา รถนำขบวนที่เหลือด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เรณู  เขมาปัญญา  /  ผู้สื่อข่าว

มันทนา  ศรีเพ็ญประภา/ เรียบเรียง

 

 

                               



--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/
http://newsblog9.blogspot.com/
http://bloghealth99.blogspot.com/
http://labour9.blogspot.com/
http://www.ksmecare.com/docSeminar/520902031848987.pdf
http://www-01.ibm.com/software/th/events/lotusliveevent/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

ดูจากกรุ๊ปเลือด...จากชีวิตจริง



ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
newsnine
 
 
 
 
 
 





 
From: Paradorn Angsusingha <paradorn_a@msn.com>
To: 
Sent: Thursday, September 17, 2009 8:51:49 AM
Subject:  ดูจากกรุ๊ปเลือด...จากชีวิตจริง


 
 
รวมทฤษฎีเรื่องกรุ๊ปเลือด และการปฏิบัติตัว
 
            กรุ๊ปเลือดเป็นตัวกำหนดสายพันธ์ของมนุษย์ เช่น หมาขนแบบนี้สูงเท่านี้ เป็นหมาโกลเดนที่ร่าเริง งูพันนี้สายนี้จะมีพิษ กิ้งก่าแบบนี้ ชอบหลับ ตอนบ่าย ผมเชื่อว่าในมนุษย์ของเราจะมีเผ่าพันธ์แปลกแยกโดยการแบ่งเผ่านอกจากสีผิวแล้วยังมีการแบ่งแบบกรุ๊ปเลือดด้วยครับ ก่อนหน้านี้มี forward เรื่องเกี่ยวกับนิสัยแต่ละกรุ๊ปเลือดของแต่ละคนมาแล้ว วันนี้จะเป็นการแสดงทฎษฎีของผมแบบที่ได้เจอกับตัวเองมา
 
นิยามของคนแต่ละกรุ๊ปเลือด
 
            O       กวนตีน ชิล
            B        โผงผาง จริงใจ
            A        จุกจิก เนี๊ยบ
            AB      ประหลาด ลึกลับ
 
 
Group 'O'
            เริ่มจากรุ๊ปนี้ก่อนเลย คนกรุ๊ปโอไม่ต้องตกใจว่าทำไม เราเป็นคนที่มีนิสัยชิล มันไม่ได้เกิดจากคุณเอง เกิดจากเผ่าพันธ์ ยีนของคุณครับ :) กรุ๊ปโอมักจะชิลกับตนเองเสมอ มาสายมากถึงมากที่สุดเวลานัดกันกับคนอื่นอื่น โดนรบกวนได้ง่ายจากปัจจัยภายนอก เช่น อยากอาบน้ำร้อนก่อนในวันฝนตกไม่งั้นไม่ออกจากบ้าน
ขออ่านการ์ตูนก่อนอีกสิบหน้าจะจบแล้ว รอฝนมันซากว่านี้แล้วกันค่อยออกแม้จะไปอีกทีสายแล้ว ก็ไม่เป็นไร กรุ๊ปโอ เป็นพวกไม่มีไฟแล้วทำอะไรไม่ได้ จะนอนอยู่กับบ้านได้ทั้งวัน แต่ถ้าวันนึงมีความฝันที่ต้องทำ มีกิเลสที่ตัวเองต้องการ จะทำสุดชีวิตแบบถึงเช้าถึงเที่ยงคืนก็ทำได้ ไม่หลับไม่นอน
 
            ความรักของกรุ๊ปโอจะเป็นพวกรักนานๆ ไปเรื่อยๆไม่หวือหวา พวกกรุ๊ปโอ จะเป็นคนไว้ใจคนยาก แต่ถ้ารู้จักกันไปแล้วก็จะติดเพื่อน ติดแฟนอย่างแยกไม่ออก เวลากรุ๊ปโอมาเจอกับกรุ๊ปโอกันเองจะจูนยาก เพราะจะดูๆกันก่อน กรุ๊ปโอเป็นพวกจะคบใครจะค่อยๆดู พอเจอโอกันเองเลยดูกันนาน แต่พอคบไปเรื่อยๆจะสนิทกันมากที่สุดกว่ากรุ๊ปอื่น แต่ก็จะมีช่องว่างให้กันด้วย กรุ๊ปโอเป็นพวกตามน้ำ เวลาจะเอาคนกรุ๊ปโอไปไหน เค้าก็ไปได้หมดล่ะ แต่ต้องมารับโทรไปตาม ให้ความสำคัญต้องอัญเชิญว่าง่ายๆเถอะมาแน่!ต้องให้คนไปง้อ กรุ๊ปโอไม่พูดอะไรออกจากใจ ภายในทันทีจะไปคิดทีนึงแล้วค่อยมาบอก บางทีจะทำอะไรก็ชอบไปปรึกษาก่อนว่าแบบนี้ดีไหม? มีเรื่องกลุ้มใจก็จะรบกวนคนรอบข้างคอยช่วยปรับสารทุกข์สุขดิบ แล้วก็กลับมาดีได้ด้วยแรงใจของคนรอบข้าง กรุ๊ปโอจะเป็นพวกปากหวานถ้าทำอะไรไม่เป็นก็จะทำตาปริบๆ ให้คนช่วยทำเสมอ นอกจากนี้โอยังเป็นพวกเจ้าสัวใจถึง ถ้ากลางที่สาธารณะก็จะหน้าใหญ่ใจกว้าง หลังจากงานเลี้ยงค่อยมาคิด เออหมดตัวแล้ว
 
 
Group 'B'
            กรุ๊ป B เป็นกรุ๊ป Entertain อย่างหนักหน่วงและ เป็นสีสันของวงสนทนา ไอเดียที่ B คิดจะตรงพูดจากใจเสมอ เรียกเสียงหัวเราะของคนในวงได้ เพราะคนอื่นจะคิด 'กูก็คิดแบบนั้น แต่ไม่กล้าพูด' บี เป็นรักใครอัดเต็มบ้าเห่อ พอชอบใครจะเอาตัวเอง ไปเลียบๆเคียงๆ คนที่ตัวเองชอบแบบเนียนๆ
 
            ส่วนมากกรุ๊ปบีจะไปชอบคนกรุ๊ปโอ ด้วยความนิ่งกว่าของคนกรุ๊ปโอ เพราะบีเจอบีจะระเบิด เวลามีเรื่องปั้บออกตัวล้อฟรีจะเป็นจะตายทีเดียว เราจะได้เห็นบีในเห็นการแปลกๆ เช่น ทะเลาะกับยาม โวยวายกับคนโทรศัพท์ผิด โมโหเพื่อนทั้งที่ยังไม่เคลียร์ เรื่องเหตุต้นตอ แล้วพอหลังจากมีเรื่องจะมาคิดได้ว่า 'น่าจะใจเย็นกว่านี้ หน่อยนะ, ไม่น่าพูดแบบนี้ไปเลย' แต่ก็ด้วยความตรงทำให้ไม่คิดอะไรมาก
 
            ถ้าเค้าจะชอบเรา(คนกรุ๊ปบี) แบบที่เป็นเราก็คงดีแล้วบีก็จะลืมเรื่องที่ตัวเองทำเอาไว้ กรุ๊ปบี บ้าเห่ออย่างที่บอก พอรักกันก็ปานจะกลืน พอไม่สนใจก็เอาไปทิ้งถังขยะได้ทีเดียว กรุ๊ปบีเป็นพวกชัดเจน ไม่ชอบจะไม่ไปไหนด้วยเลย อาจจะเห็นกรุ๊ปบีไปเที่ยวเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ตามคนอื่นไปบ้าง แต่พอครั้นอยากจะนอนอยู่บ้านหรือวันนี้รถติดหว่ะ ก็ไม่ไปซะเลย ไม่โทรบอกใครด้วย กรุ๊ปบีเป็นคนใจร้ายแต่จริงๆ เป็นคนจริงใจและค่อนข้างยอมคนที่ตนเองสนิทอย่างมาก ถ้าพอใจกลุ่มแล้ว บี จะได้รับอิทธิพลจากโอสูงทีเดียวด้วยเหตุผลกับความนิ่งสยบความเคลื่อนไหว ว่าง่ายๆ บีแพ้ทางโอ บางทีอะไรที่โอทำ บีจะปลาบปลื้มมาก แต่พอเอไปทำบีจะมองว่ารำคาญหว่ะ กรุ๊ปบีเป็นกรุ๊ปแห่งอารมณ์ ไม่มีความเท่าเทียมกันในกรุ๊ปนี้ใช้อารมณ์ตัดสินกันล้วนๆ บีไม่ต้องการคำปลอบใจหรือกำลังใจใดใด ขอนอนบ้างหลังจากอัดเต็มมาพักนึง หรือได้ออกไปด่า ทำลายของของคนที่ตัวเองไม่ชอบ ก็กลับมาดี๊ด่าได้เหมือนเดิม
 
            อย่าลืมว่าเวลาไปเที่ยวไหนให้พกคนกรุ๊ปนี้เอาไว้ เพื่อเพิ่มสีสันให้กับกลุ่ม เพราะบีถือคติสนุกไว้ก่อน อ้อ แต่บีเห็นตลกแบบนี้ จะเป็นคนมีเหตุผลกับเรื่องคอขาดบาดตายสูงมาก ตัดสินใจได้ดีทีเดียว ยิ่งเรื่องที่ตัวเองไม่ชอบขอมีส่วนด้วย อาจจะยุคนอื่น ให้เลิกคบกันไปเลย บีเป็นคนที่ประจบประแจงได้เนียน ถ้าโอจะทำจะกระดากตัวเอง ถ้าเอทำจะรู้สึกเสียศักดิ์ศรี แต่บีจะไม่มีทิฐิถ้าอยากทำก็จะทำ ไม่ได้ทำให้ทุกคนด้วยมีไรมั้ย เรื่องของฉั้นเชิ้บๆ
 
 
Group 'A'
            คนกรุ๊ปนี้ ทางยุโรปบอกว่าเป็นกลุ่มคนที่หน้าตาดีที่สุด กรุ๊ป เอ เป็นพวกมีความมั่นใจในตัวเองสูง เป็นคนที่เป็นนักคิดนักวางแผน เราจะเห็นคนเรียนดีจากเลือดกรุ๊ปนี้เยอะมาก เพราะความขยันและการเตรียมตัวที่ดีของเขา เอ ชอบอยู่ในกลุ่มคนและได้ออกความเห็นตลอด ชอบวิจารณ์คนอื่น แต่รับคำวิจารณ์ที่คนอื่นวิจารณ์ตนเองไม่ได้เท่าไหร่ เอ เป็นคนที่สนิทยากถึงจะสนิทแต่ก็จะมีกำแพงกั้นไว้เสมอ  เอจะแบ่งเวลาให้กับทุกคนสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน คนรัก คนทำงาน กรุ๊ปเอเวลานัดกันจะไปคนแรกเสมอ ตรงต่อเวลาและมีสัมมาคารวะ แต่ในใจก็จะมีความคิดที่ตัดสินคนแต่ละคนเอาไว้ในหัวแล้ว เป็นกลุ่มคนที่มีเหตุผลสูงสุด เราแทบจะเถียงไม่ชนะกรุ๊ปนี้เลย แต่เวลากรุ๊ปเอทำอะไรออกมากลับเป็นอะไรที่ Emotion มากขัดกับคาแรคเตอร์ที่ตัวเองเก็บไว้ คิดว่าเพราะความเก็บกดที่ต้อง อยู่ในกรอบตลอดเวลา กรุ๊ปเอเป็นพวก Work hard play hard เรียนถึงเกียรตินิยมแต่เล่นแรงแบบลืมวันคืน กรุ๊ปเอ กับเพื่อน ยิ่งกลุ่มใหญ่ เอจะยิ่งเป็นลิ่วล้อ แต่พอกลุ่มเล็กลง เอจะเทพขึ้นมาเรื่อยๆ
            ถ้าเป็นคนรัก เอจะเอาตัวเองเป็นเหมือนตราชั่ง คือเสมอภาค ไม่ว่าแฟนจะรุ่นใหญ่กว่า เอจะเอาตัวเองไปเทียบให้เท่ากัน แต่ถ้าแฟนรุ่นเล็กกว่าก็จะเอาตัวเองลงไปคลุกกับโลกของคนนั้นซะงั้น เอ ชอบคิดว่า อันนี้มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย และประสาทเสีย กับอะไรที่ผิดแผน นอยอยู่คนเดียวเสมอ เอ ไม่ถูกกับโออย่างรุนแรง ด้วยความเป็นคนในกรอบแล้วไปเจอคนนอกรีต จะรู้สึกหงุดหงิด อะไรว่ะ!!!นัดกันเที่ยงมาสามโมง แต่บางครั้ง เอ ก็จะคิดเข้าข้างตัวเองเสมอเวลาตัวเองทำผิดบ้าง และ ยิ้มอยู่คนเดียวเวลาที่ตัวเองรู้สึกเหนือกว่า อะไรที่ เอ ทำหน่ะ ดีดลูกคิดรางแก้วไว้หมดแล้วหล่ะ
 
Group 'AB'
            เอบี เป็นอัจฉะริยะ เราจะเห็นเวลาที่ เอบีพูดน้อยกว่าคิด เอบีชอบหลบอยู่ในมุมจ้องมองคนอื่นๆทำอะไรต่างๆ แล้วก็คิดไปเรื่อย ถ้าเป็นฉันจะทำยังไงตรงนี้ จะมีอะไรที่ดีกว่าไหม เอบี เป็นพวกชอบคิดนอกกรอบ เป็นเทพเจ้า แต่ในขณะเดียวกันอาจเป็นไอ้บ้าของใครบางคนได้ เพราะ เอบีจะทำอะไรนอกกรอบและแนวทดลองเสมอ เอบีมีวิธี Entertain ให้ตัวเองมีความสุขแปลกๆ ในมุมของตัวเอง เช่น การนั่งกดรีโมทแอร์ตอนไม่มีถ่านแล้วสนุก หรือมองมดเดิน แล้วลองตั้งชื่อมด จำว่าตอนมันเดินกลับมาเราจะจำชื่อมันได้ไหม เอบีมักสร้างสิ่งแตกต่างในสังคมเสมอ ทำให้เกิดอารยะธรรม วัฒนธรรมใหม่ๆได้ เวลานั่งในกลุ่มใหญ่จะมีแค่สองสถานการณ์ของคนในกรุ๊ปนี้คือ โดนสปอตไลท์ หรือหลบในมุมมืด  เราจะไม่เห็น เอบีเฮฮาแบบเนียนๆไปกับกลุ่มเพื่อนฝูงตลอด 3 ชม เอบีจะมีโลกส่วนตัวสูง เราเอาแนวคิดที่เรามี กฏเกณฑ์ที่เรามีไปตัดสิน เอบีไม่ได้ นิสัยของเอบีหลักๆคือลึกลับ ถ้าเอบีเค้าจะสนุกกับคนอื่นๆ อย่างเดียวคือการได้แกล้งคนอื่น หรือ ดูคนอื่นทำอะไรที่ตนเองวางแผนเอาไว้ แล้วหัวเราะอยู่ในมุมเล้กๆของเค้า :)
 
 
ถ้าเกิดการทะเลาะกันหล่ะ
             แน่นอนคู่แรกจะเป็น A กับ O เพราะอย่างที่บอกคนในกรอบเจอคนนอกรีต A ไม่ชอบความรู้สึกผิดเอง จะหาคนผิดในกรณีนั้นทันที แล้ว B เองจะเข้ามาเหมือนจะมาไกล่เกลี่ย แต่จริงๆจะเอามุขที่เตรียมไว้อย่างเหมาะสม ใส่ลงมากลางวงเพื่อความเมามันของตัวเอง ซึ่ง A จะใส่ยับด้วยเหตุผลแต่ O เองก็จะเถียงแพ้ด้วยเหตุผลทางสังคม แต่ด้วยว่า B ติดหนี้ทางความรู้สึกกับ O จะเข้ามาช่วยดันเอาไว้ เพราะ B ไม่ชอบให้ใครโดนด่าอยู่ฝ่ายเดียว O ด้วยกันจะเข้าใจแ ต่ไม่อยากโดนร่างแหไปด้วย ถ้าจัดลูกโซ่จะเป็น
                      A > ชนะ > O > ชนะ > B > ชนะ > แล้ว AB หายไปไหนหล่ะ AB ก้อยืนมองยักไหล่ว่าการทะเลาะกันของพวกนี้ไร้สาระสิ้นดี
 
 
ถ้าฝนตกหล่ะจะทำยังไง
             O   จะรอจนฝนหยุดตกจะเปียกทำไมหล่ะ ค่อยไปก็ได้คนอื่นน่าจะเข้าใจนะ ว่าเด๋วเปียกไม่สบายอีกน่ะ
             B   ดูก่อนว่าโอเอาไง หรือว่าตัวเองรีบไหมเชคอารมณ์ก่อน
             A   รีบออกไปเลยแม้จะไม่รีบมากขนาดนั้นก็เถอะ ถ้าให้ยืนเฉยๆกูจะเบื่อตาย
             AB ดูทุกคนก่อนถ้า A ออกไปแล้วเปียกหรือน้ำท่วมมันสูงจนรองเท้าเปียก ก็ยืนรอจังหวะ ซากว่านี้ แต่คงไม่อยากอยู่จนคนสุดท้าย
 
 
ความรักของคนเหล่านี้หล่ะ
             O จะฝันอยากได้คนในเสปค แต่กลับอยู่กับคนที่ชิลแล้วอยู่ด้วยกันได้จริงๆ และค่อนข้างให้คนรักเอาอกเอาใจ ส่วนมากจะได้ Bเป็นแฟน ถ้าได้ O ด้วยกันเป็นแฟนจะพูดกันน้อย และ O จะพาแฟนไปรู้จักกับเพื่อนด้วย เพราะ O ชอบให้เพื่อนอยู่ปนกะแฟนO ชอบสังคมแบบ Multi เวลามีปัญหากับคนรักที่กรุ๊ปโอง้อรัวรัว พวกนี้แพ้คนที่มาถึงที่ เอาใจถึงใจ
 
            B จะไปหาคนที่ชอบเท่านั้น  B ชอบออกตัวจีบก่อนด้วยแต่ในทางกลับกัน จะมีชีวิตแบบในหนังน้ำเน่าได้ เช่นแรกๆไม่ชอบคนนี้แต่ถ้ามาจีบๆก้จะยอมด้วยความใจอ่อน แบบพ่อแง่แม่งอนทะเลาะกันน่ารัก งอนๆแล้วล้มไปจุ๊บกันได้เชิ้บๆ B ชอบติดแฟนอยู่เป็นช่วงๆ บางทีก็จะหายไปกับแฟนเลย แต่ก็จะโผล่มาหาเพื่อนฝูงบ้างเป็นช่วงๆสลับกันไปตามสถานการณ์ ความสำคัญ B ชอบใช้เวลาอยู่กับคนรักแบบติดเอาชีวิตไปมอบให้เลยแต่แค่พักเดียวนะ มีวิธีการง้อคนรักแบบ B คือการใช้ความสัมพันธ์ความผูกพัน ความหลังวิธีนีได้ผลยิ่งนัก B เป็นพวกรักแบบบ้ายุ ยุขึ้นะเนี่ย !
 
            A ใช้เวลาดูคนรักพอสมควร A สารตะวางแผนแล้วว่าคนนี้ บ้านอยู่ไหน เรียนอะไรทำงานที่ไหน มีโอกาสจะได้มีชีวิตด้วยกันสูงไหม สืบมาเป็นอย่างดี A จะใส่ใจคนรักมากชอบทำเซอร์ไพรส์ คิดจุกๆจิกๆทำนี่ ทำนั่นให้ แต่กลับกัน เวลาเกิดปัญหากับคนรักจะรุนแรง ยืดเยื้อเรื้อรัง เพราะต้องการเอาชนะด้วยตัวเองถูกเสมอ ถ้าเราจะง้อคนรักแบบ A ต้องยอมรับผิด แล้วให้เค้ารู้สึกเหนือกว่า A จะเลิกกับคนรักเพื่อไปคบคนใหม่ต่อไปต่อเมื่อมีคนที่ดีกว่าเข้ามาเท่านั้น A ชอบจัดเตรียมวางแผนให้คนรักช่วยเหลือด้านหน้าที่การงาน การบ้านให้เสมอ ประมาณว่าคนของฉันต้องเริ่ดเสมอเด๋วคนอื่นมองไม่ดี จริงๆคิอทำอะไรก้แคร์สายตาคนอื่นเสมอมากกว่า
 
            AB มีโลกส่วนตัวของตนเองและคนรักสูง ไม่สนใจโลกภายนอกหรือสายตาความคิดคนอื่นมากนัก ไม่ชอบพูดถึงเรื่องความรักตัวเอง ถ้าเราเห็นคนจูบกันในรถไฟฟ้า กอดกันไม่สนใจโลกในห้างสรรพสินค้า นั่นหล่ะพวก AB
 
การเงินของแต่ละกรุ๊ป
            O ไม่มีแผนการใช้เงินมากเท่าไหร่นัก จริงๆแล้วเป็นพวกเจ้าสัว ถ้าโดนยุให้ซื้อของเจอคนรอบข้างบิ้วก็หมดตัว ใช้เงินเกินตัวและแพงไม่ว่าขอให้ชอบ
            B กลัวโดนด่าเวลาซื้อของชอบซื้อของแปลกๆให้เหตุผลทางใจสูงไว้ก่อนการใช้งาน แปรปรวนได้ง่ายจากคำคนรอบข้าง
            A วางแผนมาเป็นอย่างดี และต้องจำเป็นเท่านั้นถึงจะซื้อ นอกจากนี้ยังดูหลายร้าน เตรียมคิดหาส่วนลดให้ได้มากที่สุด
            AB ซื้อของไปในทางเดียวกันหมด จะซ้ำก้ไม่ว่า จะเหมือนกันมากแค่ไหนก็ไม่ว่า จะมีของซ้ำแนวเดียวกันเยอะมาก 
 
การแบ่งงาน
            O งานหยิบย่อย เนื้องานจริงๆ เช่น บริษัทผ้า คือคนฟอกผ้าเลือกสี พวกคนส่วนมากในบริษัท
            B งานประชาสัมพันธ์ มาเกตติ้ง เอนเทอร์เทน
            A เป็นออแกไนซ์เซอร์ MD ฝ่ายบุคคล หัวหน้าแผลก หัวหน้าห้อง
            AB ประธานบริษัท คนออกเงิน
 
การรับฟัง
            O ฟังคนอื่นมากไป นอยเพราะคำวิจารณ์ สูญเสียความเป็นตัวตน ชอบตามใจ
            B มีทางที่มั่นคงของตัวเอง เป็นคนดื้อด้านพอสมควร ถ้าโดนลุมจะยอมแพ้
            A ดื้อเงียบ แต่เรียนรู้จากประสบการณ์
            AB คาดเดาไม่ได้




 
 

Buddy ครบ 10 ปี มาสร้าง Strip การ์ตูนสำหรับปาร์ตี้เพื่อชนะรางวัล $1,000 คลิกที่นี่เลย


แบ่งปันความทรงจำกับคนอื่นๆ ที่คุณต้องการทางออนไลน์ได้ คนอื่นๆ ที่คุณต้องการ

ถูกพบอยู่กับ Buddy! แท็กรูปของคุณแล้วลุ้นคว้ารางวัลอันน่าตื่นตาตื่นใจ คลิกที่นี่เลย

With Windows Live, you can organize, edit, and share your photos.

Hotmail: Powerful Free email with security by Microsoft. Get it now.

Buddy ครบ 10 ปี มาสร้าง Strip การ์ตูนสำหรับปาร์ตี้เพื่อชนะรางวัล $1,000 คลิกที่นี่เลย

แบ่งปันความทรงจำกับคนอื่นๆ ที่คุณต้องการทางออนไลน์ได้ คนอื่นๆ ที่คุณต้องการ




ด้วย Windows Live คุณสามารถจัดการ แก้ไข และ แบ่งปันภาพถ่ายของคุณ

วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552

ฉันฆ่าสามี!!! ตราบาป...ไม่ยุติธรรม

วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11513 มติชนรายวัน


ฉันฆ่าสามี!!! ตราบาป...ไม่ยุติธรรม





"นังผู้หญิงใจบาป ขนาดผัวมันยังฆ่าได้ลงคอ!!"

คำ ด่าทอจากสังคมยังคงดังก้องอยู่ในความรู้สึกของ "มะลิ" และ "เอื้องจันทน์" 2 ผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดี "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" ซึ่งผู้เสียชีวิตก็หาใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็น "สามี" ที่ร�วมเรียงเคียงหมอนมาด้วยกัน

สังคมรุมประณามหยามเหยียด โดยหารู้ไม่ว่า ก่อนที่ทั้งคู่จะกลายเป็น "จำเลย" พวกเธอต้องตกอยู่ในสภาพ....ผู้ถูกสามี "กระทำความรุนแรง" จนบอบช้ำรุนแรงทั้งร่างกายและจิตใจ!!

"สมกับคำด่าของเขาแล้ว"

"มะลิ " หญิงชาวชัยภูมิ วัย 30 ปี อาชีพก่อสร้าง พูดด้วยน้ำเสียงขมขื่น "เพราะฉันเป็นคนฆ่าเขาเองกับมือ" เธอรับสารภาพ ทั้งที่ตลอด 6 ปีที่อยู่กินกับสามีอาชีพช่างก่อสร้างเหมือนกัน จนมีลูกชายด้วยกัน 1 คนนั้น เขาไม่เคยเป็นสามีและพ่อที่ดีเลย วันๆ เอาแต่กินเหล้า เสพยาบ้า ซึ่งนี่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ทั้งสองทะเลาะกันบ่อยๆ และทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เขาจะกระทำกับเธอประดุจกระสอบทราย

"เวลาเขาโกรธเขาจะชอบบีบคอ ด่าหยาบๆ ทำร้ายตบตี มีหลายครั้งเจ็บปางตายต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้ม"

แต่มะลิก็อดทน แม้เขาจะทำร้ายอย่างไร เธอก็ยังให้อภัย...

กระทั่ง ...เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ทั้งคู่ทะเลาะกันด้วยเรื่องเดิมๆ ที่เขาเอาแต่กินเหล้าไม่สนใจลูกเมีย เขาลงมือตบตีจนมะลิทนไม่ได้ บอกเลิก และจะกลับไปอยู่บ้านกับพ่อแม่ที่ชัยภูมิ

"ก่อนจะไป ขอตีให้น่วมก่อน" สามีพูดก่อนเดินถือค้อนเข้ามาหวังจะตีมะลิ ระหว่างนั้นมะลิหันไปเห็นมีดอยู่ข้างๆ เธอจึงยกมีดขึ้นมาเพื่อใช้ป้องกันตัว เหตุการณ์ชุลมุนอยู่พักหนึ่ง แล้วมีดก็ปักเข้าไปที่ท้องของผู้เป็นสามี!! เขาล้มลง พร้อมกับทิ้งตราบาปให้มะลิต้อง "มือเปื้อนเลือด" ไปตลอดชีวิต

ขณะนี้ คดีของมะลิอยู่ในชั้นการพิจารณาสอบสวนของอัยการ โดยได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิเพื่อนหญิง

เช่น เดียวกับ "เอื้องจันทน์" อายุ 52 ปี ชาว จ.พะเยา อาชีพค้าขาย ซึ่งมีชะตาชีวิตไม่ต่างจากมะลิ แม้สามีของเอื้องจันทน์จะไม่ติดเหล้า ติดยา แต่ "ความเจ้าชู้" ของเขานั้น หาตัวจับยากจริงๆ

"อยู่กับเขามา 17 ปี เจ็บช้ำน้ำใจเรื่องความเจ้าชู้มาตลอด" ซึ่งนี่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงกันตลอด 17 ปีที่ใช้ชีวิตร่วมกัน

"ครั้งล่าสุด อายุตั้ง 77 แล้วยังไม่เลิกเจ้าชู้ แถมยังโทรศัพท์พูดเสียงอ่อนเสียงหวานกับผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าเรา แต่พอคุยกับเราตะคอกใส่ทุกคำ" เอื้องจันทน์ระบายความอัดอั้น "พอเราจับได้ ก็ไม่ยอมรับ แถมยังจุดธูปต่อหน้าพระสาบานว่า หากมีจริง ขอให้ตายภายใน 3 วัน 7 วัน"

2 เดือนต่อมาหลังจากวันที่สาบาน เขาก็เสียชีวิตลง! จากเหตุการณ์ที่ทั้งคู่มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงเรื่องที่ฝ่ายชายไปมีหญิง อื่น ไม่ยอมให้เงินใช้จ่ายเป็นค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ เอื้องจันทน์ถูกสามีทำร้ายด้วยการเตะ ตีเข่า ชกบริเวณหน้าอก และตีด�วยท่อนเหล็ก เธอจึงหยิบมีดขึ้นมาเพื่อป้องกันตัว เป็นจังหวะเดียวกับที่สามีโถมตัวเข้ามาพอดี ปลายมีดแทงเข้าไปบริเวณซี่โครงซ้าย 1 ครั้ง

จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เอื้องจันทน์ถูกควบคุมตัวเข้าฝากขังที่ทัณฑสถานหญิงเป็นเวลา 18 วัน ข้อหาฆ่าคนตาย ก่อนที่บุตรสาวจะประกันตัวออกมา เธอยอมรับกรรมที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีข้อแก้ตัว ซึ่งถ้าไม่ห่วงลูกสาวและหลานๆ ให้เธออยู่ในนั้นตลอดไปก็ได้

"ยอมรับ ตัวเองว่าเป็นคนบาป เครียดมาก มีแต่คนประณามว่าดิฉันเลว แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ตลอดเวลามันเจ็บช้ำแค่ไหน ด้วยความสัตย์จริงว่า ฉันไม่ได้อยากฆ่าเขา เพราะถ้าอยากให้เขาตายจริง คงไม่อยู่กับเขามาถึง 17 ปีหรอก" แล้วเธอก็ร้องไห้

ขณะนี้ คดีของเอื้องจันทน์อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าผลการดำเนินคดีจะออกมาอย่างไร เอื้องจันทน์ก็น้อมรับชะตากรรม

"ชีวิตนี้เพิ่งได้มาเจอ ขอแค่ครั้งเดียวพอแล้ว ชาติไหนๆ ก็ขออย่าได้เจออีกเลย" พูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น

เรื่อง ราวชีวิตของเธอทั้งคู่ เปรียบเสมือน "กระจกส่อง" ครอบครัวไทยหลายๆ ครอบครัว ที่ผู้หญิงถูกกระทำเหมือนไม่ใช่คน จริงอยู่ แม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในทางกฎหมาย มันเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ และควรได้รับโทษทัณฑ์ แต่หากมองย้อนกลับไปถึงสาเหตุโศกนาฏกรรม

"ตราบาป" ที่ได้รับวันนี้ มันไม่ยุติธรรมเลย!!!



สถิติน่าห่วง ชนวน "โศกนาฏกรรม"


- นางสาวสุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า สำหรับกรณีภรรยาฆ่าสามีนั้น เมื่อก่อนนานๆ 4-5 ปี มี 1-2 คน แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 2-3 คนต่อปี

- นางสาวปานจิตต์ แก้วสว่าง นักสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิผู้หญิง ได้ให้ข้อมูลว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2552 มูลนิธิได้ช่วยเหลือผู้หญิงที่ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัว 110 คน โดยเกือบทั้งหมดเป็นความรุนแรงที่กระทำโดยสามี นอกจากนี้ยังได้ช่วยเหลือผู้หญิงในคดีเจตนาฆ่าสามีจำนวน 4 คน

- นายจีราวัฒน์ จันทร์หอม หัวหน้าฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ ศูนย์ประชาบดี 1300 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยข้อมูล ในช่วงเดือนตุลาคม 2551 ถึงเดือนสิงหาคม 2552 มีผู้หญิงถูกละเมิดทางร่างกาย ทางเพศ ทางจิตใจ โทรศัพท์มาปรึกษาและขอความช่วยเหลือ 262 เรื่อง ซึ่งมีถึง 214 เรื่องที่ถูกทำร้ายร่างกาย ส่วนใหญ่มีอายุ 31-40 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงเกิดขึ้นกับผู้หญิง


หน้า 25

ประชาไท | Prachatai.com



 
From: ประชาไท หนังสือพิมพ <service@prachatai.com>
To: 
Sent: Wednesday, September 16, 2009 5:11:08 AM
Subject: ประชาไท | Prachatai.com

ประชาไท | Prachatai.com 

 

เครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนเรียกร้องถอนหมายจับแกนนำสหภาพแรงงาน 3 คน พร้อมเรียกร้องตำรวจและรัฐบาลตรวจสอบการใช้ LRAD

Posted: 15 Sep 2009 12:12 PM PDT

รัฐทุ่มงบ 50 ล้าน ทำทีวีออนไลน์ แพร่ข่าวทั่วโลก

Posted: 15 Sep 2009 11:58 AM PDT

สำนักข่าวสารแห่งชาติจัดตั้งสื่อออนไลน์ใหม่thainews.prd.go.th หรือ thainews.net พร้อมให้บริการข่าวสาร ภาษาไทย และอังกฤษ อีกทั้ง เปิดสถานีโทรทัศน์ภาษาอังกฤษ24 ชั่วโมง ในรูปแบบทีวีออนไลน์ภาครัฐแห่งแรกของประเทศไทย

read more

ประภาส ปิ่นตบแต่ง: บ้วนปากด้วยนโยบายปฏิรูปที่ดิน

Posted: 15 Sep 2009 10:22 AM PDT

ข่าวนายกอภิสิทธิ์แจกสัญญาเช่าที่ดินทำกินให้เกษตรกร ที่ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี น่าจะถูกจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของข่าวลวงโลก เพราะนั่นไม่ใช่การเอาที่ดินไปแจกชาวนา แต่เป็นการไปปล้นกรรมสิทธิ์ที่ดินที่พวกเขาพึงมีพึงได้

read more

การคุ้มครองสิทธิแรงงานต่างด้าว กับ ความมั่นคงของรัฐไทย

Posted: 15 Sep 2009 10:13 AM PDT

ทศพล ทรรศกุลพันธ์ จากคณะนิติศาสตร์ มช. เสนอบทความว่าด้วย สิทธิของแรงงานต่างด้าว กับความกังวลต่อความมั่นคงสงบเรียบร้อยของชาติ  และความกังวลในการจัดสรรงบประมาณเพื่อสร้างบริการสาธารณะให้ "ปวงชนชาวไทย" 

read more

คำถามจาก'ทมยันตี' : เมื่อไหร่จะมีตำนาน 'รายาแห่งปัตตานี'

Posted: 15 Sep 2009 10:01 AM PDT

คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ หรือ "ทมยันตี" นักเขียนชื่อดัง นำเงินที่ได้จากการเขียนสคริปต์ละครโทรทัศน์เรื่อง "รายากูนิง" จำนวน 100,000 บาท มอบให้สถาบันสมุทรรัฐเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จัดตั้ง "กองทุนวรรณกรรมไทย – มลายู" พร้อมเผยความตั้งใจใช้วรรณกรรมเป็นเครื่องร้อยความเข้าใจ

read more

พวกเขาตายจากการ "ไร้ซึ่งความหวัง"

Posted: 15 Sep 2009 09:52 AM PDT

ชีวิตของโรฮิงยา 70 คนที่ถูกกักขังอยู่โดยรัฐไทย อาจกำลังถูกลืม และแม้แต่ความตายของ 2 ชีวิตที่จากไปในระหว่างการคุมขังก็กำลังถูกลืมเช่นกัน บางทีสิ่งที่พวกเขาขาดหายไปอาจเป็น "ความหวัง" และ "อนาคต"

read more

รอมฏอน แปดเปื้อนที่ภาคใต้ของไทย

Posted: 15 Sep 2009 09:44 AM PDT

บทความจากข้าราชการระดับสูงจากมาเลเซีย เสนอมุมมองต่อปัญหาชายแดนใต้ของไทย กรณีเหตุรุนแรงในเดือนรอมฎอน

read more

ครม. ประกาศใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคง เฉพาะพื้นที่เขตดุสิต 18-22 ก.ย. นี้

Posted: 15 Sep 2009 02:45 AM PDT

แรงงาน 400 คน บุกทำเนียบ เรียกร้องแก้ปัญหาเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ตำรวจเตรียมเครื่อง LRAD รับมืออีก

Posted: 15 Sep 2009 12:34 AM PDT

กรรมการสิทธิฯ ค้านใช้ พรบ.มั่นคงคุมการชุมนุม ชี้ละเมิดสิทธิ

Posted: 14 Sep 2009 03:29 PM PDT

กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติโฉมใหม่ เตรียมส่งจดหมายถึงนายกฯ ค้านการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ระบุละเมิดสิทธิการชุมนุม ย้ำกฎหมายนี้ให้อำนาจทหาร ใช้คนไม่ถูกกับงาน

read more

ณัฐวุฒิเผยเตรียมโครงการ 'ลาวาแดง' หลัง 'ครูบ้านนอก' อบรมแกนนำ

Posted: 14 Sep 2009 03:11 PM PDT

"คนที่ผ่านอบรมรุ่นแรกจะยกระดับเป็นแกนนำเสื้อแดง แต่ละกลุ่มจัดหลักสูตรของตัวเองเพื่อจัดอบรมสัมมนา สานสัมพันธ์ในแต่ละพื้นที่ให้เหนียวแน่น เพื่อให้เข้าสู่โครงสร้างของ "ลาวาสีแดง" ที่แกนนำคนเสื้อแดงต้องการให้สมาชิกเสื้อแดงเคลื่อนที่ตลอดเวลาในทุกภูมิภาคของประเทศ"

read more


อะไรๆ ก็เป็นไปได้

วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11512 มติชนรายวัน


อะไรๆ ก็เป็นไปได้


โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์




อนุสาวรีย์ของคนอังกฤษ(ซ้าย)และอนุสาวรีย์ของคนอเมริกัน(ขวา)ที่เสียชีวิตในการระเบิดเครื่องบินที่ล็อกเกอร์บี

ระหว่าง การสัมมนาในชั้นเรียนวิชารัฐศาสตร์เมื่อไม่กี่วันมานี้มีเรื่องปัญหาระหว่าง เสื้อเหลืองกับเสื้อแดงที่ดูทีท่าว่าจะลากยาวไปอีกนาน ซึ่งก็น่าจะฉุดเอาเศรษฐกิจของประเทศไทยตกเหวไปด้วย

สำหรับบรรยากาศใน ชั้นเรียนดูเหมือนจะเป็นลักษณะกังวลเป็นทุกข์ถึงสถานการณ์ของประเทศไทยว่า น่าเป็นห่วงเสียเหลือเกิน และมีหลายคนที่วิตกจริตถึงขนาดว่าจะเกิดสงครามกลางเมืองไปเลยทีเดียว จนผู้เขียนต้องเตือนสติด้วยประโยคทองในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสที่สามารถระงับ สงครามระหว่างพวกคาทอลิกกับพวกโปรเตสแตนต์เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ค.ศ.1593 (พ.ศ.2136 ราวสมัยพระนเรศวรมหาราช) ที่ว่า "Paris is worth a mass"

เรื่อง เป็นอย่างนี้ พวกคาทอลิกกับพวกโปรเตสแตนต์ของฝรั่งเศสเมื่อสี่ร้อยปีที่แล้วนั้นมีความ เห็นอันแรงกล้าเหมือนกันคือ ต้องการให้ประเทศฝรั่งเศสมี roi, foi และ loi (กษัตริย์, ศาสนา, และกฎหมาย) เป็นแบบเดี่ยวๆ คือ มีกษัตริย์องค์เดียว ศาสนาเพียงศาสนาเดียว และระบบกฎหมายอย่างเดียวกัน

ซึ่งเรื่องกษัตริย์และระบบกฎหมายนั้นไม่มีปัญหานัก แต่เรื่องศาสนากลับเป็นปัญหาคอขาดบาดตายแบบยอมกันไม่ได้เด็ดขาด

โดย เรื่องของเรื่องก็คือฝ่ายคาทอลิกต้องการจะบังคับให้ฝ่ายโปรเตสแตนต์ยอมรับ พระสันตะปาปาที่กรุงโรมเป็นประมุขของศาสนจักร ส่วนฝ่ายโปรเตสแตนต์ก็ไม่ยอมรับพระสันตะปาปาแบบหัวเด็ดตีนขาดเหมือนกัน จึงต้องรบราฆ่าฟันกันเป็นสงครามใหญ่โต



ซึ่งคนไทยเราคงเห็นว่าเป็นเรื่องบ้าๆ แท้ๆ เหมือนกับฝรั่งสมัยนี้ก็เห็นเรื่องเสื้อเหลืองกับเสื้อแดงเป็นเรื่องตลกเหมือนกัน

อี ทีนี้เรื่องรบกันระหว่างชาวฝรั่งเศสนี่ก็มีแบบออกกลลวงที่สกปรก โดยฝ่ายคาทอลิกเสนอยกลูกสาวให้กับหัวหน้าฝ่ายโปรเตสแตนต์เป็นการสมานไมตรี

ครั้นพวก โปรเตสแตนต์พากันมางานแต่งงานของหัวหน้าในกรุงปารีสก็ถูกฝ่ายคาทอลิกจับฆ่า เกือบหมดแล้วยังบังคับให้หัวหน้าฝ่ายโปรเตสแตนต์ให้ยอมเข้ารีตเปลี่ยนจาก โปรเตสแตนต์เป็นคาทอลิก

ซึ่งหัวหน้าฝ่ายโปรเตสแตนต์ก็ทำทีเป็นยอมแต่ โดยดี พร้อมกับพาเจ้าสาวคาทอลิกกลับถิ่นเดิมทางตอนใต้ของฝรั่งเศสแล้วจึงยกทัพกลับ มารบกับพวกคาทอลิกอีก จนสามารถล้อมกรุงปารีสได้แต่ไม่สามารถตีกรุงปารีสได้สำเร็จ

จน กระทั่งพวกคาทอลิกยื่นข้อเสนอให้หัวหน้าฝ่ายโปรเตสแตนต์ขึ้นเป็นกษัตริย์ของ ฝรั่งเศสแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เลยทีเดียว แต่มีข้อแม้ว่าต้องเข้ารีตเป็นคาทอลิกจริงๆ เสียก่อนจึงจะยอมยกกรุงปารีสให้ ซึ่งหัวหน้าของฝ่ายโปรเตสแตนด์ก็ตัดสินใจบอกว่า "คุ้มค่าที่จะเปลี่ยนศาสนาเพื่อแลกกับกรุงปารีส"

หัวหน้าฝ่าย โปรเตสแตนต์นี้ก็เลยได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าเฮนรี่ ที่ 4 เป็นการเริ่มต้นราชวงศ์บูร์บงอันเลื่องชื่อและยาวนานของฝรั่งเศส ปัจจุบันนี้ราชวงศ์บูร์บงยังครองประเทศสเปนและประเทศลักเซมเบิร์กอยู่เลย เรื่องการเมืองนี่ อะไรๆ ก็เป็นไปได้

คราวนี้มาดูเรื่องอะไรๆ ก็เป็นไปได้แบบนี้ในปัจจุบันดูบ้างคือ กรณีที่รัฐบาลของประเทศลิเบียได้ส่งคนไปวางระเบิดเครื่องบินโดยสารของสายการ บินแพนแอมที่บินจากลอนดอนไปนิวยอร์กเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2531 เมื่อเครื่องบินระเบิดกลางอากาศทำให้ผู้โดยสารและพนักงานบนเครื่องบินจำนวน 259 คนเสียชีวิตและชิ้นส่วนของเครื่องบินตกลงมาที่เมืองล็อกเกอบี สกอตแลนด์ ทำเอาชาวบ้านตายอีก 11 คน

ซึ่งการสืบสวนและสอบสวนร่วม ระหว่างทางการอังกฤษและอเมริกา (คนอเมริกันตายไป 180 คนในเหตุการณ์นี้) ก็สามารถจับชาวลิเบีย 2 คนได้และนำไปพิจารณาคดีที่สกอตแลนด์ซึ่งศาลสูงของสกอตแลนด์ได้ตัดสินให้ชาว ลิเบียคนหนึ่งชื่อ Abdelbaset Ali Mohmed Al Megrahi มีความผิดลงโทษจำคุกตลอดชีวิตใน พ.ศ.2544 ส่วนชาวลิเบียอีกคนหนึ่งต้องปล่อยไปเนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอ

ใน พ.ศ.2546 รัฐบาลลิเบียได้ยอมรับว่าเป็นผู้สนับสนุนการวางระเบิดเครื่องบินครั้งนี้และ เสนอเงินจำนวนสองพันเจ็ดร้อยล้านเหรียญอเมริกันเป็นค่าชดเชยความเสียหายให้ แก่ครอบครัวของผู้ตายในการระเบิดเครื่องบินเมื่อ 15 ปีมาแล้ว อันเป็นการยอมรับอย่างเปิดเผยว่ารัฐบาลลิเบียสนับสนุนการก่อการร้ายสากล

ใน วันที่ 20 สิงหาคมปีนี้เอง นาย Abdelbaset Ali Mohmed Al Megrahi ก็ได้รับการปล่อยตัวกลับไปลิเบียและได้รับการต้อนรับอย่างวีรบุรุษจาก ประชาชนนำโดยบุตรชายของประธานาธิบดีกาดาฟีที่สนามบินและเข้าพบประธานาธิบดี กาดาฟีอย่างเป็นพิธีการอีกด้วย

นอกจากนี้ บุตรชายของประธานาธิบดีกาดาฟี ชื่อนาย Seif al-Islam Gadhafi แจ้งว่า เขาให้ความสำคัญต่ออิสรภาพของนาย Abdelbaset Ali Mohmed Al Megrahi ถึงขนาดแลกกับสัมปทานการขุดเจาะน้ำมันในประเทศลิเบียของบริษัท บี.พี.ของอังกฤษที่มีมูลค่ามหาศาล ซึ่งทางการอังกฤษก็คงเห็นว่าคุ้มค่าเช่นกัน ชาวโลกจะเห็นเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญ

หากผลประโยชน์ของคู่กรณีลงตัวแล้วละก็... อะไรๆ ก็เป็นไปได้!

หน้า 6
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01act03160952&sectionid=0130&day=2009-09-16

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
kb
http://camp02.blogspot.com/ camp02
http://kb1951.blogspot.com/ park
http://kbparks.blogspot.com/ kbpark
http://word1951.blogspot.com/ wordpress
http://www.baanjomyut.com/library/lotus
http://www.educationatclick.com
http://www.pwdom.com
http://weblogcamp2009.blogspot.com/2009
http://www.twitter.com/kajorn
http://www.twitter.com/BKKFlashCamp
http://camp02.readyhomepage.com
http://www.twitter.com/sun1951
http://www.twitter.com/joomlacorner
http://sun1951.vaivaitraining.com
http://sun1951.wordpress.com
http://www.educationatclick.com/th/

ขยันไปนอก "วีระศักดิ์ จินารัตน์" ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เด็กของผู้มีบารมีนอกพรรคภูมิใจไทย

วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11512 มติชนรายวัน


ขยันไปนอก


คอลัมน์ เดินหน้าชน

โดย สราวุฒิ สิงห์เอี่ยม wutsara@matichon.co.th



ต้อง เขียนต้นฉบับล่วงหน้า เลยไม่รู้ว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 15 กันยายน จะเห็นชอบให้ "ยรรยง พวงราช" อธิบดีกรมการค้าภายใน นั่งเป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ หรือไม่ หลังจากยืดเยื้อมา 2-3 สัปดาห์

แต่ เชื่อว่าโผคงจะไม่เปลี่ยน เพราะทั้ง "พรทิวา นาคาศัย" รมว.พาณิชย์ ก็เคยประกาศยืนยันต่อหน้า ซี 10 ของกระทรวงพาณิชย์มาแล้ว หรือแม้กระทั่งคนในพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เองก็ยังยืนว่าปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่คือ "ยรรยง"

ยกเว้นว่าช่วงที่ผ่านมามี "ข้อมูลใหม่" ที่ทำให้ต้องเปลี่ยนโผ

หากเป็นเช่นนั้นก็คงมีข้อสงสัยมากมาย ที่ "พรทิวา" ต้องชี้แจง

มีอีกหลายเรื่องที่ "พรทิวา" จะต้องกำกับดูแลให้ดี โดยเฉพาะการทำงานของคนรอบข้าง ที่เคยบอกกล่าวคร่าวๆ ก่อนหน้านี้

คนรอบข้างที่ว่าก็คือบรรดาที่ปรึกษาทั้งหลาย

ตอน แรกที่ "พรทิวา" เข้ามานั่งเป็น รมว.พาณิชย์คนใหม่ ถูกสบประมาทว่าเป็นมือใหม่หัดขับ เลยแต่งตั้งที่ปรึกษาเกือบ 20 คนเข้ามาช่วยเสริมบารมี

แต่ขณะนี้ที่ปรึกษาที่มีความรู้ ความสามารถจริงๆ แทบจะไม่เหลือแล้ว จะมีก็แต่ที่ปรึกษาที่เป็นคนใกล้ชิดและคุ้นเคยกับ รมว.พาณิชย์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสายการเมือง โดยมีอยู่ 2 คนที่ค่อนข้างมีเพาเวอร์มาก ซึ่งนักข่าวตั้งฉายาว่าเป็น "องค์ขาว" กับ "องค์ดำ"

ส่วนที่ปรึกษาคนอื่นๆ ที่ยังทำหน้าที่อยู่ ก็แค่ไม้ประดับ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีการปีนเกลียวกันเอง

โดย เฉพาะที่ปรึกษาที่ชอบโชว์ออฟ ชอบเสนอโครงการโน้น โครงการนี้ แต่มักจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ แถมยังชอบเอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น

มี ตัวอย่างโครงการหนึ่งซึ่งที่ปรึกษาคนหนึ่งร่วมกับคนชอบโชว์ออฟ คิดและเตรียมเสนอให้ รมว.พาณิชย์ พิจารณา แต่ในที่ประชุมของกลุ่มที่ปรึกษาด้วยกันเองไม่เห็นด้วย

ปรากฏว่า คนที่ชอบโชว์ออฟรีบชิ่ง ร่วมตำหนิที่ปรึกษาคนที่ร่วมทำโครงการดังกล่าว

แต่วันดีคืนดี "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นายกรัฐมนตรี เคยได้ยินโครงการดังกล่าว แล้วถามความคืบหน้าจาก "พรทิวา"

เมื่อ "พรทิวา" สอบถามถึงโครงการดังกล่าว ปรากฏว่า ที่ปรึกษาที่ชอบโชว์ออฟ รีบเอาดีใส่ตัว แสดงตนว่าเป็นคนต้นคิดโครงการดังกล่าวเอง

นั่นเป็นเรื่องของบรรดาที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์

ยัง อีกเรื่องที่ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์โจษขานกันมาก นั่นคือ การทำงานของผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ "วีระศักดิ์ จินารัตน์" ซึ่งเป็นเด็กของผู้มีบารมีนอกพรรคภูมิใจไทย

ว่ากันว่า ท่าน "วีระศักดิ์" ขยันมาก มักจะออกไปปฏิบัติภารกิจข้างนอกอยู่เป็นประจำ

การไปปฏิบัติหน้าที่ตามจังหวัดต่างๆ นั้นคงไม่เท่าไหร่ แต่ที่ข้าราชการนินทากันมากก็คือการเดินทางไปต่างประเทศที่ค่อนข้างถี่

มี ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ทำบันทึกไว้แล้วส่งมาให้ดู คือ ไปจีน (4-8 เมษายน), ไปเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เดนมาร์ก (26 เมษายน-4 พฤษภาคม), ไปรัสเซีย (กลางเดือนพฤษภาคม), ไปโปแลนด์ ตุรกี (27 พฤษภาคม-4 มิถุนายน)

ไปจีนครั้งที่ 2 (5-7 มิถุนายน), ไปบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย (7-9 มิถุนายน), ไปแอฟริกาใต้ (17-22 มิถุนายน), ไปเยอรมนี (2-15 กรกฎาคม), ไปออสเตรเลีย (23-28 กรกฎาคม), ไปบราซิล ชิลี อาร์เจนตินา (5-16 สิงหาคม)

ไปจีนครั้งที่ 3 (16-19 สิงหาคม) และไปสหรัฐอเมริกา (30 สิงหาคม-13 กันยายน)

ยัง ไม่พอ ยังมีทริปที่อยู่ระหว่างเตรียมการอีก โดยจะไปอิตาลี และฝรั่งเศส (16-25 กันยายน), ไปรัสเซีย ยูเครน สโลเวเนีย (26 กันยายน-2 ตุลาคม) และไปโอมาน การ์ตา ดูไบ (24-28 ตุลาคม)

ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ยังบอกว่า การเดินทางไปต่างประเทศแต่ละครั้ง ต้องนั่งเฟิร์สต์คลาส พักโรงแรมหรู ค่าพาหนะในการเดินทางประเทศนั้นๆ รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกจิปาถะ

คำนวณคร่าวๆ แต่ละทริปไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท รวมแล้วเป็นเงินหลายสิบล้านบาท

แล้ว ท่านผู้ช่วย รมต. "วีระศักดิ์" ก็ไม่ได้ไปคนเดียว แต่จะมีข้าราชการคอยติดตามเป็นลูกหาบไปด้วย 3-4 คน ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ประจำในประเทศต่างๆ ก็ต้องเจียดเวลามาคอยดูแล เทกแคร์ท่านผู้ช่วย รมต.ด้วย

ไม่รู้ว่าการเดินทางไปประเทศต่างๆ ของท่านผู้ช่วย รมต. "วีระศักดิ์" สัมฤทธิผลอย่างไรให้เห็นเป็นรูปธรรมบ้าง

แต่ ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ฝากบอกส่งท้ายว่า เห็นท่านผู้ช่วย รมต. "วีระศักดิ์" ขยันเดินทางไปต่างประเทศถี่ขนาดนี้แล้วเหนื่อย (ใจ) แทน


หน้า 6

Good story.



ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
newsnine
 
 
 
 
 
 




> Date: Tue, 15 Sep 2009 23:25:29 -0700
> From: posiri01@yahoo.com
> Subject: Good story.
> To: 
>
> A 10-Year Old Teacher Tips Us in Life
> --posted by tressyanne on Jun 12, 2009
> In the days when an ice cream sundae cost much less, a 10-year-old boy entered a hotel coffee shop and sat at a table. A waitress put a glass of water in front of him. "Miss, how much is an ice cream sundae?" he asked. "Fifty cents," replied the waitress. The little boy pulled his hand out of his pocket and studied the coins in it.
> "Okay then, how much is a plain dish of ice cream?" he inquired. By now, more people were waiting for a table and the waitress was growing impatient. "Thirty-five cents," she brusquely replied. The little boy again counted his coins. "I'll have the plain ice cream," he said.
> The waitress brought the ice cream, put the bill on the table, and walked away. The boy finished the ice cream, paid the cashier, and left.
> When the waitress came back to that table, she began to cry as she wiped it with the wash cloth. There, placed neatly beside the empty dish with vanilla ice cream swirled around the edges, were two nickels and five pennies...
> You see, the little boy couldn't have the sundae, because he wanted to secure enough coins to leave her a tip. That was a tip to her and here's a tip for you: remember those who serve you even if they don't remember you because it just might help remind them of their own value as a server.
>
>
>


แบ่งปันความทรงจำกับคนอื่นๆ ที่คุณต้องการทางออนไลน์ได้ คนอื่นๆ ที่คุณต้องการ