ชมพุทธประวัติ ฉบับการ์ตูน

Art of Asia: Buddhism - The Art of Enlightenment

ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)

การแนะแนว"อนาคตประเทศไทยกับ 10 อาชีพสุดฮิพ"จัดโดยมูลนิธิไทยคม 10-11 ต.ค.52

Bookmark and Share

วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

วงเสวนาวุฒิฯ จวกยุคมหาดไทยตกต่ำสุด ย้ายขรก.ไม่เป็นธรรม บี้มท.1รับผิดชอบการกระทำ"ศักดิ์สยาม"

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 16:45:52 น. มติชนออนไลน์

วงเสวนาวุฒิฯ จวกยุคมหาดไทยตกต่ำสุด ย้ายขรก.ไม่เป็นธรรม บี้มท.1รับผิดชอบการกระทำ"ศักดิ์สยาม"


ที่อาคารรัฐสภา 2 เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 ก.พ. สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา คณะกรรมาธิการการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและสร้างธรรมาภิบาล ร่วมกับ คณะอนุกรรมการศึกษาระบบการเสริมสร้างธรรมาภิบาลและตรวจสอบทุจริตในรัฐวิสาหกิจและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชื่องคุณธรรม จัดการสัมมนา "วุฒิสภา-ประชาชน" ในหัวข้อเรื่อง ธรรมาภิบาลในการแต่งตั้งโยกย้าย : ศึกษากรณีกระทรวงมหาดไทย โดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล ในฐานะประธานกมธ. การศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและสร้างธรรมาภิบาล เป็นผู้กล่าวเปิดงาน โดยมีผู้อภิปรายประกอบด้วย นายจาดุร อภิชาตบุตร หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย นายเฉลิม ศรีผดุง อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน นายภิรมย์ สิมะเสถียร กรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ ประธานคณะอนุกรรมการศึกษาระบบการเสริมสร้างธรรมาภิบาล และนายประสาร มฤคพิทักษ์ โฆษกคณะกรรมาธิการ เป็นผู้ดำเนินรายการ

ทั้งนี้ นายประสาร ได้ถามนายจาดุร ว่า ในยุคประจุบัน สีน้ำเงินคุมกระทรวงมหาดไทย และคนที่จะได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายจะต้องจบ ม.ศักดิ์สยาม และต้องจบ "เน" จริงหรือไม่ นายจาดุร กล่าวว่า ปัจจุบันเป็นยุคที่กระทรวงมหาดไทยตกต่ำที่สุด ตนจำเป็นที่จะต้องพูด ตนไม่กลัวที่จะพูด แต่ตนกลัวว่า พูดไปแล้วจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง เพราะในปัจจุบัน ธรรมาภิบาลในการแต่งตั้งโยกย้าย จะต้องตั้งคนที่มีประสิทธิภาพ มีความรู้ความสามารถ แต่ตอนนี้ไม่มีเลย ก่อนหน้านี้ตนก็เคยได้ยินเรื่องการส่งกระดาษเปล่า และมีคนมาเขียนคำตอบให้ในภายหลัง ตนนึกว่า ได้ยินเพียงคนเดียวไม่แน่ใจว่า เป็นเรื่องจริงรึเปล่า แต่สุดท้ายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)และสื่อก็ได้ยินเช่นเดียวกับตน ซึ่งเรื่องทั้งหมดเชื่อว่า ทุกคนได้รับข้อมูลที่แท้จริงจากข้าราชการที่ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของคนบางกลุ่ม ที่มักจะมีคำถามว่าเตรียมเงินไว้เท่าใด ถ้าได้เป็นแล้วจะทำอะไรบ้าง

นายจาดุร กล่าวว่า ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ขณะนี้เป็นที่น่าสะพรึงกลัวของบรรดาข้าราชการในกระทรวงมหาดไทยทั้งหลาย เขายากที่จะมาทำหน้าที่ แต่ตอนนี้ไม่มีคำว่าธรรมาภิบาลอยู่ในกระทรวงมหาดไทยแล้ว เพราะในเมื่อหน่วยงานที่ถูกกล่าวหา ไม่สามารถตรวจสอบได้ย่อมถือว่าไม่มีธรรมาภิบาล ตนนี้มีพวกเห็นกระทรวงมหาดไทยเป็นสนามเด็กเล่น ทั้งที่มีอายุสั้น อยู่ได้ไม่เกิน 4 ปี แต่ข้าราชการยังคงต้องอยู่ต่อไปจนกว่าจะเกษียณอายุ ซึ่งทั้งที่จริงแล้วการเมืองจะต้องเป็นกลาง จะแต่งตั้งโยกย้ายก็จะต้องตัดสินอย่างเป็นธรรม อยู่ในฐานะผู้กำหนดนโยบาย อย่ามาล้วงลูก ตอนนี้คงรู้ตัวว่าจะมีการยุบสภา จึงมีการเร่งรีบ ไม่รอบคอบ ประมาท ไม่แยแส ไม่ให้เกียรติ ยึดอำนาจบริการทั้งหมดในกระทรวง เห็นกระทรวงเป็นสนามเด็กเล่น อยากจะทำอะไรก็นึกเอา ข้าราชการบางคนก็ไม่เหลือศักดิ์ศรี ทั้งเราข้าราชการจะต้องมีศักดิ์ศรี แต่กลับมีคนบออกว่าศักดิ์ศรีเป็นเรื่องของความรู้สึก

นายประสาร ถามว่า ตกลงเรื่องการกล่าวถึง จบเน ม.สยาม เป็นอย่างไร นายจาดุร กล่าวว่า ตนไม่รู้จักพวกเขา ไม่เคยไปพบ แต่เห็นนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เกาะติด นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอยู่ไม่ห่าง และถึงแม้ว่าตำแหน่งประธานคณะทำงานฯจะไม่มีกรอบอำนาจ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นและเป็นปัญหาอยู่ในกระทรวงขณะนี้ รมว.มหาดไทยจะต้องรับผิดชอบ ทั้งที่ตนก็เชื่อว่านายชวรัตน์ ไม่รู้เรื่อง ทั้งที่ควรจะรู้อะไรบ้าง

นายจาดุร กล่าวต่อว่า ส่วนการเรียกรับเงินเพื่อแรกกับการแต่งตั้งโยกย้ายนั้น ตนขอเรียยกร้องให้คนที่จ่ายเงิน แต่ไม่ได้ตำแหน่งออกมาเปิดเผยความจริง เพราะในสังคมจะต้องมีคนกล้า ไม่ใช่ว่าจ่ายค่าโงไปแล้วแต่ไม่กล้าพูด ก่อนหน้านี้มีปลัดอำเภอหนึ่ง จะสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ ทั้งที่มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง หลังจากที่มีการกล่าวหาว่ามีการทุจริต ข้อหากินเงินบ่อน แต่เจ้าตัวประกาศว่าจะเข้าโรงเรียนนายอำเภอให้ดู และก็เข้าได้จริงๆ ซึ่งตนเคยทำหนังสือทักท้วงว่าควรจะรอผลการสอบไปแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล ตนจึงต้องการที่จะเรียกร้องไปยังก.พ. ว่าควรที่จะทำหน้าที่ให้มากขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช้ออกแต่กฎ

นายจาดุร กล่าวว่า นายชวรัตน์ ท่านควรรู้อะไรบ้าง อย่างน้อยตนอยากให้รู้การกระทำของนายศักดิ์สยาม ว่าดำเนินการเรื่องอะไรลงไปบ้าง โดยเฉพาะเรื่องการซื้อขายตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทย ตนเห็นว่ามีจริงเพราะมีคนมาบอก แต่ก็ไม่มีหลักฐาน วิธีการปฏิบัติในการโยกย้ายตำแหน่งเมื่อมีตำแหน่งว่างลงจะมีรายชื่อข้าราชการที่เข้าหลักเกณฑ์ตามบัญชีของกองการเจ้าหน้าที่ แต่ปกรากฎว่ากลับไม่ได้เป็นไปตามนั้น โผแต่งตั้งโยกย้ายขณะนี้ก็ล่าช้าผิดปกติ เพราะไปถามคนที่ไม่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะประธานคณะทำงานรมว.มหาดไทย ทั้งที่โดยปกติ 1 ต.ค.ข้าราชการจะต้องไปรอรับตำแหน่งใหม่กันแล้ว แต่ผ่านมา 4 เดือนก็ยังไม่เสร็จ อธิบดีก็ยืนยันว่าเสนอไปตั้งแต่ส.ค.ปีที่แล้ว

“ผมไม่ได้ตำหนิหรือติเตียนฝ่ายการเมือง แต่เห็นว่าที่บ้านเมืองป่นปี้อย่างทุกวันนี้ ก็เพราะพวกติดทัณฑ์บน พวกโกงเลือกตั้ง และพวกไม่มีสิทธิ์มาปกครอง ที่กระทรวงมหาดไทยเป็นที่รู้อย่างแพร่หลายว่ากองการเจ้าหน้าที่ และปลัดกระทรวงไม่ได้มีความหมายเพราะไม่รู้ว่าใครได้รับการแต่งตั้ง ดังนั้นข้าราชการจะต้องทำกันเองต้องรวมตัวกันตามรัฐธรรมนูญมาตรา 64 ให้ได้ต้องไม่ให้คนไม่ดีครองอำนาจ ก่อนนี้ผมได้ข่าวว่าตำแหน่งอธิบดีเกี่ยวกับการสร้างทางมีการจ่ายกันถึง 300-400 ล้านบาท ผมไม่อยากจะเชื่อ แต่ตอนนี้ผมชักจะเชื่อแล้ว และเขาก็ฉลาดไม่ได้จ่ายเอง แต่มีคนจ่ายให้ พวกนี้รู้จักสอยงบประมาณ เพราะซักจากโครงการซัก 3-4 พันล้าน แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ก็ได้ 300 ล้านแล้วและข้าราชการก็ได้ด้วย แต่ถือว่าคนพวกนี้มีจิตสำนึกต่อ” นายจาดุร กล่าว

ขณะที่นายไพฑูรย์ บุญวัฒน์ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กรณีการซื้อขายเพื่อเข้าโรงเรียนนายอำเภอ ตอนแรกสร้างขึ้นมาเพื่อคัดคน สร้างคนเพื่อมีศักดิ์ศรี มาปกครองประชาชน แต่ปัจจุบัน กลับมีแต่การใช้เงินซื้อ ศักดิ์ศรีจึงไม่มีเหลือแล้ว สำหรับวงการมหาดไทยขณะนี้นับได้ว่าเป็นวงการที่อัปยศอดสูมากที่สุด โดยเฉพาะ เรื่องผู้หญิง ที่มีการเรียกไปกอดไล่ปล้ำ ถึงห้องทำงาน รวมทั้งมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นมากมาย ขณะที่เรื่องการแบ่งสีแบ่งข้าง ตอนแรกมีสิงห์เแดง สิงห์เหลือง แต่ขณะนี้สีน้ำเงินกลืนไปหมดแล้ว ตนขอยืนยันว่าข้อมูลที่ตนนำมาเปิดเผยในครั้งก่อนเป็นความจริง(แถลงข่าวเปิดเผยตัวเลขการซื้อข่ายตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด 20 ล้าน รอผู้ว่าฯ 17 ล้าน และนายอำเภอ 1 ล้าน)

ด้านนายภิรมย์ สิมะเสถียร กรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม กล่าวว่า การแต่งตั้งโยกย้ายความจริง มีหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้อยู่แล้ว คือใช้ความรู้ความสามารถมาพิจารณา แต่พอเอาเข้าใจ รัฐมนตรี กลับให้ที่ปรึกษา มาชี้ตัวว่าจะเอาใครคนนั้นคนนี้ เดี๋ยวนี้รัฐมนตรี ไม่ต้องเซ็น ในการแต่งตั้งโยกย้ายแล้ว เพราะการส่งที่ปรึกษาฯมาชี้ตัวจะได้ไม่มีหลักฐาน สาวไปถึง ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด เกิดจากการมีระบบ แต่ไม่ใช้ระบบอย่างถูกต้อง กลับอาศัยช่องทางลัด เพื่อแสวงหาความก้าวหน้า อย่างไรก็ตามเห็นว่าควรจะมีกรรมการสรรหาที่นำคนภายนอกมาพิจารณาแต่งตั้งเหมือนกับหน่วยงาน ทั้งเพื่อถ่วงดุลกับผู้มีอำนาจ รวมทั้งจะต้องเปิดเผยถึงรายละเอียดของการลงมติการแต่งตั้งโยกย้ายเพื่อความโปร่งใส ว่าคนที่ได้รับเลือกด้วยเหตุผลอะไร คนที่ไม่ได้เป็นเพราะอะไร

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1266486397&grpid=00&catid=00

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น