ชมพุทธประวัติ ฉบับการ์ตูน

Art of Asia: Buddhism - The Art of Enlightenment

ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)

การแนะแนว"อนาคตประเทศไทยกับ 10 อาชีพสุดฮิพ"จัดโดยมูลนิธิไทยคม 10-11 ต.ค.52

Bookmark and Share

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การคุ้มครองเงินฝากแบงค์เต็มจำนวน (ที่กำลังจะสิ้นสุดลง) และการปรับตัวของผู้ฝากเงิน

การคุ้มครองเงินฝากแบงค์เต็มจำนวน (ที่กำลังจะสิ้นสุดลง) และการปรับตัวของผู้ฝากเงิน

ทราบหรือไม่ว่า ในปัจจุบัน เงินอออมของท่านที่ฝากอยู่กับสถาบันการเงิน (ได้แก่ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) ได้รับการคุ้มครองทั้งต้นและดอกเต็มจำนวนโดย สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (Deposit Protection Agency หรือ DPA) •ไม่ว่าท่านจะมีเงินในบัญชีเพียงไม่กี่หมื่นบาทหรือเป็นพันล้านบาทก็ตาม • หมายความว่าถ้าแบงค์ที่ท่านฝากเงินอยู่เกิดมีอันเป็นไป (เจ๊ง) DPA ก็จะจ่ายเงินคืนให้ท่านครบทั้งจำนวน โดยที่ท่านไม่ต้องไปฟ้องร้องต่อศาลในฐานะเจ้าหนี้แบงค์เพื่อขอแบ่งเงินคืน • ซึ่ง DPA จะเรียกเก็บเงินนำส่ง (เบี้ยประกัน) จากสถาบันการเงินของท่านในอัตราร้อยละ 0.40 ต่อปี (ต้นทุนเงินฝากของแบงค์ที่แท้จริงจึงจะต้องบวกเข้าไปอีก 0.40%) โดยจะคำนวณจากยอดเงินฝากเป็นรายวัน

และทราบหรือไม่ว่า การคุ้มครองแบบเต็มจำนวนดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 11 สิงหาคม 2554 หรืออีกประมาณปีครึ่งนับจากนี้ • โดยในวันที่ 11 สิงหาคม 2554 DPA จะลดการคุ้มครองแบบเต็มจำนวน ลงเหลือเพียง 50 ล้านบาทต่อบัญชีต่อสถาบันการเงิน (ถ้าท่านมีเงินฝาก 100 ล้านบาท ก็ยังสามารถกระจายฝากไว้กับ 2แบงค์ โดยได้รับการคุ้มครองรวมกัน 100 ล้านบาทอยู่เช่นเดิม) • และในวันที่ 11 สิงหาคม 2555 (อีกสองปีครึ่งนับจากนี้) DPA จะลดการคุ้มครองลงเหลือ 1 ล้านบาทต่อบัญชีต่อสถาบันการเงิน • ในปัจจุบันมีสถาบันการเงินรวมกันทั้งสิ้น 38 แห่ง แปลว่าถ้าท่านมีเงินฝากเกิน 38 ล้านบาท จะมีเงินฝากบางส่วนที่มีความเสี่ยงที่จะไม่ได้คืนกรณีที่สถาบันการเงินของท่านล้ม

เพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงสร้างเงินฝากของประเทศไทย มาลองดูข้อมูล ณ พฤศจิกายน 2552 กัน




ข้อมูลดิบ จากธนาคารแห่งประเทศไทย

ข้อมูลข้างต้นชี้ให้เห็นว่า • ในวันที่ 11 สิงหาคม 2554 ผู้ฝากเงินที่ได้รับผลกระทบระลอก แรก (มีเงินฝากเกิน 50 ล้านบาท) มีเพียง 7,750 บัญชี คิดเป็น 0.007% ของบัญชีเงินฝากทั้งหมด 76.2 ล้านบัญชี แต่จำนวนเงินฝากที่ได้รับผลกระทบ มีสูงถึง 1.77 ล้านบาท คิดเป็น 25.30% ของจำนวนเงินฝากทั้งหมด 6.99 ล้านล้านบาท! และในวันที่ 11 สิงหาคม 2555 ผู้ฝากเงินที่ได้รับผลกระทบระลอก สอง (มีเงินฝากเกิน 1 ล้านบาท) จะมีเพิ่มขึ้นเป็น 837,308 บัญชี แต่ก็มีสัดส่วนเพียง 1.1% ของบัญชีเงินฝากทั้งหมด แต่ที่สำคัญคือ จำนวนเงินฝากที่จะได้รับผลกระทบจะมีสูงถึง 5.02 ล้านล้านบาท หรือ 71.80% ของเงินฝากทั้งประเทศ

จากข้อมูลข้างต้น สามารถแปลความและคาดการณ์ได้ดังนี้

• ถ้าเทียบจำนวนเงินฝากในบัญชีเป็นความมั่งคั่ง ถือได้ว่าประเทศไทยมีความเหลื่อ มล้ำของรายได้สูงมาก ผู้ที่มีเงินฝากไม่เกิน 50,000 บาท มีจำนวนถึง 88.6% ของจำนวนบัญชีทั้งหมด แต่กลับมีเงินรวมกันเพียง 4.1% เท่านั้น ขณะที่ผู้ที่มีเงินฝากเกิน 1 ล้านบาท มีจำนวนเพียง 1.1% แต่มีเงินรวมกันถึง 71.8% ของเงินฝากทั้งประเทศ ซึ่งเป็นเครื่องวัดประสิทธิภาพในการกระจายรายได้ได้อย่างชัดเจน

• ในอีกประมาณหนึ่งปีครึ่ง จะมีเงินฝากที่ไม่ได้รับการค้ำประกันซึ่งจะต้องกระจายออกไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ สูงถึง 1.77 ล้านล้านบาท และในอีกสองปีครึ่ง จำนวนเงินดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.02 ล้านล้านบาท อาจเป็นผลให้ธุรกิจจัดการกองทุนมีความเติบโตสูงมาก โดยเฉพาะกองทุนตลาดเงินที่ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐซึ่งมีความเสี่ยงต่ำมาก (เทียบเคียงได้กับการฝากเงิน) ซึ่งในปัจจุบันมียอดเงินลงทุนรวมกันไม่เกิน 5 แสนล้านบาทเท่านั้น (ข้อมูลจากการรวบรวมส่วนตัว)

• ภาครัฐพยายามส่งสัญญาณว่า ผู้ฝากเงินจะต้องพัฒนาตนเองให้เป็นนักลงทุน คือต้องรู้จักพิจารณาความเสี่ยงของสถาบันการเงินที่นำเงินไปฝากด้วย เพราะมีโอกาสที่จะไม่ได้รับเงินคืนกรณีที่แบงค์ล้ม ซึ่งในประเด็นนี้ผมสนับสนุนเต็มที่

• DPA เองก็มีความเสี่ยงว่าจะสามารถคุ้มครองเงินฝากได้จริงเมื่อเกิดวิกฤติการเงินหรือไม่ เนื่องจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 DPA มีกองทุนที่ใช้คุ้มครองเงินฝากเพียง 10,646 ล้านบาทเท่านั้น เทียบกับเงินฝากทั้งหมดในปัจจุบันที่มีอยู่ 6.99 ล้านล้านบาท หรือสามารถคุ้มครองได้เพียง 0.15% เท่านั้น! ถึงแม้จะรวมเบี้ยประกันที่เก็บจากสถาบันการเงินอีกปีละประมาณ 28,000 ล้านบาท (0.40% ของ 6.99 ล้านล้านบาท ต่อปี) ก็ต้องใช้เวลาถึง 250 ปีในการสะสมเบี้ยประกันให้เพียงพอต่อจำนวนเงินฝากทั้ง 100%!

เมื่อผู้ฝากเงินทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการปรับตัวและวางแผนการลงทุนต่อไปในอนาคต เรื่องนี้ผสมสรุปสั้นๆ ว่า เศรษฐีเหนื่อยครับ

หมายเหตุ:
• ข้อมูลเงินฝาก http://www.bot.or.th/Thai/Statistics/FinancialInstitutions/CommercialBank/Pages/StatDepositsAndLoans.aspx
• รายงานประจำปี 2551 ของ DPA http://www.dpa.or.th/Uploads/Content/105346-Book%20Thai.pdf
• สรุปข้อมูลที่สำคัญของ DPA http://www.dpa.or.th/Detail.aspx?menu=22&id=50

ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.thaifreedompress.blogspot.com/
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.media4democracy.com/th/
http://www.youngtelecom.org/
http://www.logex.kmutt.ac.th/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm
http://www.isriya.com/node/2809/wordcamp-bangkok-2009-pool-party

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น