ชมพุทธประวัติ ฉบับการ์ตูน

Art of Asia: Buddhism - The Art of Enlightenment

ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)

การแนะแนว"อนาคตประเทศไทยกับ 10 อาชีพสุดฮิพ"จัดโดยมูลนิธิไทยคม 10-11 ต.ค.52

Bookmark and Share

วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2553

Taki เก้าอี้ไม้อัดฟางข้าว เรียบง่าย...เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม


วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 33 ฉบับที่ 4192  ประชาชาติธุรกิจ


Taki เก้าอี้ไม้อัดฟางข้าว เรียบง่าย...เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม





เป็น 2 รายการสินค้าที่ได้รางวัล DE-Mark และ G-Mark ผลงานของบริษัท มีปิยบุญ จำกัด

รายการ แรกคือ Taki Rice chair เก้าอี้ที่ผลิตจากไม้อัดฟางข้าว รายการที่ 2 คือ Husk Stool/Bench เก้าอี้ที่ผลิตจากไม้อัดแกลบ ซึ่งไม้อัดทั้ง 2 ตัวเป็นวัสดุธรรมชาติ 100% ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็บ่งบอกถึงความเป็นไทย เนื่องจากเราเป็นประเทศที่มีการปลูกข้าวและผลผลิตทางการเกษตรที่สมบูรณ์

พนม สุข มีลักษณะ กรรมการผู้จัดการ และนักออกแบบ บริษัท มีปิยบุญ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ เล่าว่า บริษัทก่อตั้งขึ้นมาได้ประมาณ 4 ปี และเข้าสู่ธุรกิจผลิตและส่งออกเฟอร์นิเจอร์ด้วยการขายไอเดียในการออกแบบ ภายใต้คอนเซ็ปต์เฟอร์นิเจอร์อารมณ์ดี

"สินค้าที่ผลิตส่วนใหญ่จะเน้นความเรียบง่าย ใช้งานสะดวก และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม"

ซึ่ง ก่อนหน้าที่จะออกแบบ Taki Rice chair และ Husk Stool/Bench นั้น ชิ้นงานที่ผลิตออกมาจะเป็นไม้มาตลอด ได้แก่ ไม้สัก ไม้โอ๊ก และไม้แอช ซึ่งเป็นวัตถุดิบนำเข้าเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเราเห็นเทรนด์มาตั้งแต่ต้นว่า แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคจะมุ่งสู่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่ง แวดล้อม



"เรา ก็จับเทรนด์พฤติกรรมของผู้บริโภค และมาบวกกับงานออกแบบของเราที่เน้นความเรียบง่าย พยายามใช้สีที่เป็นธรรมชาติที่มาจากเนื้อไม้แท้ หรือถ้าจะปรุงแต่งก็ใส่ให้น้อยที่สุด"

อย่างโชว์รูมของบริษัทก็จะใช้ บ้าน เป็นโชว์รูมที่มีการออกแบบจริง ๆ เป็นบ้านเปลือย ๆ เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ในการตกแต่งก็เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เราทำขาย โต๊ะ เตียง เก้าอี้ ฯลฯ ของทุกอย่างใช้งานจริง ๆ ในบ้าน ขณะเดียวกันก็ใช้เป็นโชว์รูมให้ลูกค้าได้ดูด้วย

ซึ่งที่ผ่านมาสินค้าภายใต้การออกแบบตามคอนเซ็ปต์อารมณ์ดีก็ได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งจากลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ

จน เมื่อปีที่แล้วบริษัทได้มีการพัฒนาโดยเลือกใช้ไม้ที่ผลิตในประเทศมาเป็น วัตถุดิบ นั่นก็คือ ไม้อัดที่ทำจากฟางข้าว ไม้อัดจากแกลบ และจากตะไคร้

พนม สุขบอกว่า บริษัทของผมไม่ได้เป็นเจ้าของนวัตกรรมไม้อัดจากฟางข้าวและไม้อัดจากแกลบ แต่บริษัทผมเป็นรายแรกที่มีการพัฒนาโดยเลือกใช้ไม้อัดชนิดดังกล่าวมาพัฒนา และออกแบบเป็นเฟอร์นิเจอร์

"เจ้าของไม้อัดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมคือบริษัท โกลเด้นท์ จำกัด ซึ่งมีการผลิตไม้อัดนานาชนิด



ขณะ เดียวกันเขาก็ได้มีวิจัยพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ซึ่งมีไม้อัดจากฟางข้าว แกลบ และตะไคร้รวมอยู่ด้วย ซึ่งพอผมไปพบ ก็เกิดแนวคิดว่า ถ้านำมาพัฒนาเป็นเฟอร์นิเจอร์จะทำได้มั้ย" พนมสุขกล่าวและว่า

เพราะ ไม้อัดก็คือ ไม้อัดเป็นแผ่น ๆ ขนาด 4 ม.ม., 8 ม.ม. แผ่นใหญ่ ๆ บาง ซึ่งผมก็ต้องมานั่งคิดว่า จากไม้อัดเป็นแผ่น ๆ ถ้านำมาผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์จะทำอะไรได้บ้าง ก็ทำงานร่วมกันกับบริษัทด้วย ในที่สุดก็ออกมาเป็นเก้าอี้ และม้านั่งอย่างที่เห็น

"ที่ให้ความ สวยงามแบบเรียบง่าย โดยพยายามใช้สีที่เป็นธรรมชาติทั้งหมด โดยถ้าเป็นไม้จากฟางข้าวก็จะมีสีเหลืองอ่อน ๆ แต่ถ้าเป็นสีของแกลบก็จะมีชมพู ส้มนิด ๆ"

และก็เป็นไปตามคาด คือผลิตออกมาแล้วโดนใจผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็โดนใจกรรมการ จนได้รางวัล DE-Mark และ G-Mark และนำมาโชว์ใน TIFF 2010 ที่จัดที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 10-14 มีนาคมนี้

พนมสุขกล่าวว่า เทรนด์สินค้าที่เป็นเมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้นมาแรงมาก ซึ่งเป็นแบบนี้มา 2-3 ปีแล้ว และปีนี้ก็ยังคงอยู่และ เชื่อว่าเทรนด์นี้น่าจะอยู่อีกนาน ด้วยกระแสลดโลกร้อนยังเป็นกระแสหลักที่ทุกคนในโลกล้วนตระหนักและห่วงใย ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ไม้ จากวัสดุธรรมชาติ แถมไม่ได้ตัดไม้ทำลายป่า แต่เป็นไม้แปรรูปจากเศษวัสดุ สามารถพัฒนาขึ้นรูปจนนำกลับมาใช้ได้นั้น จึงคาดว่าโอกาสทางตลาดน่าจะได้รับการตอบรับที่ดี

ที่สำคัญกลยุทธ์ที่ ใช้เสริมก็คือ ตั้งราคาไม่แพง โดยตั้งราคาเท่ากับเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากไม้โอ๊ก ไม้แอช ทั้งที่ข้อเท็จจริงต้นทุนไม้อัดจากแกลบและฟางข้าวมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่า

"ผม ไม่อยากให้ผู้บริโภคคิดว่า สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมต้องมีราคาสูงตลอด แต่อยากให้เข้าใจถึงความสมเหตุสมผล กับต้นทุน กระบวนการผลิต การออกแบบ และเรื่องราวของวัตถุดิบที่มีเรื่องราว มีที่มาที่ไป

ซึ่งจากวิธีคิด ทำให้ผมมั่นใจว่า ทั้งเก้าอี้ ม้านั่ง ตลอดจนผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ตามออกมาน่าจะได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี และทำให้สินค้าในกลุ่มที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ฝีมือคนไทย อยู่ได้อีกนาน" พนมสุขกล่าวตอนท้าย


หน้า 44
http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02biz01150353&sectionid=0214&day=2010-03-15

--
โปรดอ่านบล็อก
http://www.pridiinstitute.com
http://www.nakkhaothai.com
http://apps.facebook.com/blognetworks/index.php
http://www.roundfinger.com/
http://twitter.com/sweetblog
http://twitter.com/oknewsblog
http://twitter.com/okblogger
http://twitter.com/sat191
http://www.pacc.go.th/
http://twitter.com/okblogchan
http://twitter.com/sun1951
http://twitter.com/smeblogger
http://twitter.com/seminarblog
http://twitter.com/sunnewsblog
http://twitter.com/okworldblog
http://twitter.com/ktblogger
http://twitter.com/sundayblog
http://twitter.com/mondayblog
http://twitter.com/tuesdayblog
http://twitter.com/wednesdayblog
http://twitter.com/thursdayblog
http://twitter.com/fridayblog
http://twitter.com/saturdayblog
http://www.deepsouthwatch.org/node/687
http://www.tu.ac.th/org/ofrector/tu_council/record/nopporn.htm
http://www.visalo.org/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น