ชมพุทธประวัติ ฉบับการ์ตูน

Art of Asia: Buddhism - The Art of Enlightenment

ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)

การแนะแนว"อนาคตประเทศไทยกับ 10 อาชีพสุดฮิพ"จัดโดยมูลนิธิไทยคม 10-11 ต.ค.52

Bookmark and Share

วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

สำนักงบประมาณ ยอมรับ ศอฉ.ใช้จ่ายไปแล้วมากกว่าพันล้านบาท

สำนักงบประมาณ ยอมรับ ศอฉ.ใช้จ่ายไปแล้วมากกว่าพันล้านบาท เล็งเชิญผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลังมาชี้แจงมาชี้แจงถึงความ จำเป็นในการจัดสรรงบประมาณจำนวนมากให้กับศอฉ.

เมื่อวันที่ 1 กค.ที่รัฐสภา ในมีการประชุมคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ได้พิจารณาเรื่องหลักเกณฑ์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2553 ในส่วนของงบกลาง ซึ่งทางกมธ.ให้ความสนใจในประเด็นการเบิกจ่ายงบประมาณของศูนย์อำนวยการแก้ไข สถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ทั้งนี้การประชุมกมธ.ส่วนใหญ่ได้สอบถามตัวแทนจากสำนักงบประมาณว่าตั้งแต่มี การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและตั้งศอฉ.ขึ้นมามีการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อใช้ ในการบริหารจัดการไปแล้วทั้งหมดเท่าใด และสอบถามว่าทำไมตัวเลขเบี้ยเลี้ยงของกำลังพลทหารและตำรวจที่ทำงานให้กับ ศอฉ.กับผู้ปฎิบัติหน้าที่ในพื้นสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ถึงแตกต่างกันมาก เพราะกำลังพลของศอฉ.ได้รับวัน 400 บาท ขณะที่ในพื้นที่ภาคใต้ได้เพียง 210 บาทเท่านั้น

ทั้งนี้นายธรรมศักดิ์ สัมพันธ์สันติกุล ผอ.สำนักจัดทำงบประมาณด้านบริหาร นางดวงตา ตันโช ผอ.ส่วนสำนักนโยบายและงบกลาง น.ส.กัลยา ฟองสมุทร ผอ.สำนักจัดทำงบประมาณด้านความมั่นคง และ นายสารสิน ศิริถาพร ผอ.ส่วนงบประมาณกลาโหม ชี้แจงในทางเดียวกันว่ายังไม่ได้สรุปตัวเลขงบประมาณดังกล่าวอย่างเป็นทางการ เพราะขณะนี้ศอฉ.ยังคงปฎิบัติหน้าที่อยู่แต่คาดว่าน่าจะมากกว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนเรื่องเบี้ยเลี้ยงนั้นเป็นข้อตกลงที่กองทัพบกและหน่วยงานความมั่นคงได้ มาทำความตกลงไว้กับกระทรวงการคลังและเสนอมาให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณ ให้ตามที่ได้ตกลงกันเอาไว้

ภายหลังการประชุม พ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่า การประชุมกมธ.ในสัปดาห์หน้าวันที่ 8 ก.ค.จะเชิญผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลังมาชี้แจงมาชี้แจงถึงความ จำเป็นในการจัดสรรงบประมาณจำนวนมากให้กับศอฉ.ว่ามีความจำเป็นหรือไม่ เพราะส่วนตัวเห็นว่าการบังคับใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตอนนี้เป็นการทำให้สิ้นเปลืองภาษีของประชาชนโดยไม่จำเป็นจากการที่ต้องจ่าย เบี้ยเลี้ยงให้กับกำลังพลของศอฉ.กว่า 6 หมื่นนายในช่วงที่สถานการณ์คลี่คลายไปแล้ว ประเด็นที่สำคัญ คือ กระทรวงการคลังและรัฐบาลไม่ควรปล่อยให้เกิดความเหลื่อมล้ำในเรื่องตัวเบี้ย เลี้ยงของกำลังพลมากมายขนาดนี้เพราะจะกระทบต่อขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ ผู้ปฎิบัติงานซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ากำลังพลที่ปฎิบัติงานในพื้นที่สาม จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความเสี่ยงมากกว่า.
ไทยรัฐออนไลน์
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.thaifreedompress.blogspot.com/
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.media4democracy.com/th/
http://www.youngtelecom.org/
http://www.logex.kmutt.ac.th/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm
http://www.isriya.com/node/2809
/wordcamp-bangkok-2009-pool-party
C:\Documents and Settings\user\My Documents\ไฟล์ที่ได้รับของฉัน\issarachon1101.wma
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=hiansoon

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น