ชมพุทธประวัติ ฉบับการ์ตูน

Art of Asia: Buddhism - The Art of Enlightenment

ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)

การแนะแนว"อนาคตประเทศไทยกับ 10 อาชีพสุดฮิพ"จัดโดยมูลนิธิไทยคม 10-11 ต.ค.52

Bookmark and Share

วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เพื่อนบ้านชิงจังหวะไทยติดหล่ม ปรับโมเดล ศก.-รื้อโครงสร้างรายได้ประเทศ

วันที่ 01 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 34 ฉบับที่ 4223  ประชาชาติธุรกิจ


เพื่อนบ้านชิงจังหวะไทยติดหล่ม ปรับโมเดล ศก.-รื้อโครงสร้างรายได้ประเทศ





ปลาย สัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารโลก ประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่รายงานการติดตามเศรษฐกิจฉบับล่าสุด ซึ่งแม้สาระหลักจะอยู่ที่การคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจของไทยในปี 2553 ซึ่งน่าจะเติบโตที่ระดับ 6.1% ลดลงเล็กน้อย 0.1% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

แต่มีเนื้อหาในบางประเด็นที่น่า พิจารณาอย่างละเอียดและระมัดระวัง นั่นคือการตั้งข้อสังเกตถึงการพึ่งพาการส่งออกอย่างเดียวในการกระตุ้น เศรษฐกิจ ซึ่งอาจทำให้ไทยมีความเสี่ยงสูง หากเศรษฐกิจโลกเติบโตลดลง เศรษฐกิจไทยก็จะหดตัวตาม โดยเฉพาะในปัจจุบันซึ่งเศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวนจากปัญหาหนี้สินของกรีซ และปัญหาหนี้สินในกลุ่มยูโรโซน

ปัจจุบัน การส่งออกมีสัดส่วนราว 65% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)

เป็น ที่น่าสนใจว่า ในขณะที่ไทยพึ่งพาการส่งออกเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีศักยภาพทางเศรษฐกิจทัดเทียม หรือสูงกว่าประเทศไทย อันได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ มีการปรับโครงสร้างรายได้ของประเทศใหม่ หรืออยู่ระหว่างการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออก และเพิ่มรายได้ประเทศจากกลไกตัวอื่น ๆ แทน

อาทิ สิงคโปร์ ซึ่งพบว่าได้หันมาดำเนินนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจที่มีความสมดุลมากยิ่งขึ้น โดยอาศัยทั้งการค้า การบริการทางการเงิน และภาคการท่องเที่ยวและบริการ โดยเฉพาะธุรกิจการจัดประชุม สัมมนา การท่องเที่ยวเพื่อรางวัล และนิทรรศการ (meetings, incentives, conferences and exhibitions) หรือธุรกิจไมซ์ จนถึงเศรษฐกิจกาสิโน เป็นกลไกสร้างรายได้ที่สำคัญ

ในปี 2552 ธุรกิจเหล่านี้เป็นกลไกหลักในการดึงนักท่องเที่ยวและนักเดินทางกลุ่มต่าง ๆ เข้าสู่ประเทศ ได้มากถึง 9.7 ล้านคน ในจำนวนนั้น 30% เป็นนักเดินทางกลุ่มไมซ์ โดยที่ธุรกิจไมซ์มีสัดส่วนในการสร้างรายได้เข้าประเทศให้กับสิงคโปร์ มากถึง 6 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2551 หรือ 40% ของรายได้รวมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งระบบ

นอกจากนี้ในเดือน พฤษภาคมที่ผ่านมา สิงคโปร์ยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักเดินทางเพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักส่วนหนึ่งมาจากการเปิดให้บริการกาสิโน-รีสอร์ตขนาดมหึมาใหม่ 2 แห่ง ในประเทศ ซึ่งลงทุนโดยกลุ่มเก็นติ้ง ของมาเลเซีย และลาสเวกัส แซนด์ ของสหรัฐ

ทั้งนี้กลุ่มลาสเวกัส แซนด์ ประเมินว่า บ่อนกาสิโน และ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ของกลุ่ม มีแนวโน้มจะดึง นักท่องเที่ยวให้มาใช้บริการได้สูงสุดถึง 150,000 คนต่อวัน หลังจากมียอดผู้มาท่องเที่ยวสูงเกินคาด นับจากเปิดบริการในเดือนเมษายน

จุด แข็งที่เสริมส่งให้ธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจไมซ์ และกาสิโน ก้าวขึ้นมาเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กับสิงคโปร์ มาจากความพร้อมในระบบขนส่ง สาธารณูปโภคพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ โดยเฉพาะการมีสนามบินชางงี ที่เชื่อมโยงมหานครและเมืองใหญ่ 200 แห่ง ใน 60 ประเทศทั่วโลก รองรับการบริการเที่ยวบินมากกว่า 50,000 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จาก 65 สายการบิน ทั้งยังมีสถานที่รองรับธุรกิจไมซ์ได้อย่างครบเครื่อง ในจำนวนนั้นรวมถึงศูนย์ประชุมสิงคโปร์ เอ็กซ์โป และศูนย์ประชุมซันเทค สิงคโปร์

นอกจากสิงคโปร์แล้ว ยังพบว่ามาเลเซียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีการวางยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศใหม่

เมื่อ วันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา รัฐบาลมาเลเซียได้เปิดเผยแผนพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปี ฉบับที่ 10 ของมาเลเซีย วงเงินงบประมาณ 2.30 แสนล้านริงกิต หรือกว่า 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ระหว่าง ปี 2553 ถึงปี 2558 เป็นก้าวแรกของการยกระดับให้เป็นประเทศพัฒนาแล้ว หรือประเทศที่มีรายได้ต่อหัวของประชากรสูง (high income country) ภายในปี 2563 หรือในอีก 10 ปีข้างหน้า

แผนพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปี ฉบับใหม่ของมาเลเซีย มีสาระสำคัญหลายประเด็น อาทิ ขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจขยายตัว 6% ต่อปี โดยงบประมาณส่วนใหญ่ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ มูลค่า 2.3 แสนล้านริงกิต หรือ 2.3 ล้านล้านบาท นำไปใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจ (55%) ส่งเสริมภาคสังคม (30%) การใช้จ่ายด้านความมั่นคง (10%) และการบริหารงานทั่วไป (5%)

ตลอดจน กระตุ้นการลงทุนให้ขยายตัวแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะการลงทุนของภาคเอกชน โดยมาเลเซียต้องการการลงทุนของภาคเอกชน เฉลี่ยปีละกว่า 1.15 แสนล้านริงกิต หรือประมาณ 1.15 ล้านล้านบาท เพื่อให้บรรลุเป้าในการเพิ่มการลงทุนร้อยละ 12.8 ต่อปี

แผนยังครอบคลุมการยกเลิกมาตรการอุดหนุนเพื่อลดการขาดดุลงบประมาณ

โดย จะยกเลิกมาตรการอุดหนุดสินค้าจำเป็น ตั้งแต่น้ำมันไปจนถึงอาหารอย่างน้ำตาล คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณถึง 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

จนถึงการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก ผ่านการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบเสรีเพื่อกระตุ้นภาคเอกชน และส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ เร่งปฏิรูประบบการศึกษา ตลอดจนสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพเพื่อยกระดับรายได้ให้สูงขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ตั้งข้อสังเกตในรายงานวิเคราะห์ ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 10 ของมาเลเซีย อาจจะส่งผลดีและความท้าทายต่อเศรษฐกิจไทยในหลายด้าน โดยในระยะสั้นอาจกระทบต่อไทยไม่มากนัก เพราะนโยบายเปิดเสรี รวมถึงการผ่อนคลายกฎระเบียบและลดขั้นตอนที่ซับซ้อนของมาเลเซีย นอกเหนือจากการยกเลิกภาษีสินค้าให้ไทย ร้อยละ 98.4 ภายใต้กรอบเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟต้า) จะเปิดโอกาสให้ไทยเข้าถึงตลาดมาเลเซียได้มากขึ้น

นอกจากนี้สินค้า ส่งออกของไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันใกล้เคียงกับสินค้ามาเลเซียและคู่ แข่งอื่น ๆ โดยสินค้าส่งออกของไทยส่วนใหญ่เป็นสินค้าขั้นกลางที่มาเลเซียนำเข้าไปผลิต เพื่อส่งออกอีกต่อหนึ่ง และมาเลเซียยังต้องใช้เวลาในการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อยกระดับสินค้าอุตสาหกรรม ส่วนด้านการลงทุน นักลงทุนไทยอาจลดต้นทุนได้มากขึ้นจากการผ่อนคลายกฎระเบียบและลดขั้นตอน ปฏิบัติ แต่ก็อาจเผชิญกับอุปสรรคจากมาตรการที่เอื้อประโยชน์กับคนท้องถิ่นเชื้อสายมา เลย์

ส่วนในระยะยาว การผลิตสินค้าโดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงในอนาคตอาจทำให้มาเลเซียมี ความต้องการสินค้าขั้นกลางจากไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้ของชาวมาเลย์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ความต้องการสินค้าเพื่อการ บริโภคจากไทยเพิ่มขึ้น แต่ในทางกลับกัน หากผู้ประกอบการไทยไม่สามารถพัฒนาสินค้าให้ทัดเทียมมาเลเซีย ไทยอาจเสียส่วนแบ่งตลาดสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงให้มาเลเซีย รวมถึงตลาดส่งออกอื่น ๆ ที่ไทยและมาเลเซียมีเอฟทีเอในกรอบอาเซียนร่วมกัน

การ เปลี่ยนแปลงในลักษณะเดียวกับสิงคโปร์ และมาเลเซีย ยังพบในฟิลิปปินส์ด้วย โดยรัฐบาลตากาล็อกได้จัดทำแผนโรดแมปที่จะผลักดันประเทศให้เป็นปลายทางการลง ทุน ซึ่งตั้งเป้าดึงโครงการต่าง ๆ มูลค่า 2.405 ล้านล้านเปโซ ในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยแผนส่งเสริมการลงทุนฉบับแรกของแดนตากาล็อกมีเป้าหมายดึงโครงการใหม่ ๆ เข้าสู่ภาคเหมืองแร่ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีก 7 อุตสาหกรรม ซึ่งแผนนี้ตั้งเป้าการเพิ่มขึ้นของการลงทุนอย่าง ค่อยเป็นค่อยไป จนถึงระดับ 6.58 แสนล้านเปโซ ในปี 2557 หรือเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปี 2552

เจ สลี เอ. ลาพัส รัฐมนตรีการค้า เปิดเผยว่า แผนดังกล่าวเป็นโครงการถาวร ดังนั้นจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้แม้จะเปลี่ยนรัฐบาล เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรับผิดชอบดูแลโครงการ ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนสำหรับการร่างแผนนี้จะติดตาม การดำเนินการตามแผนต่อไป

พิมพ์เขียวฉบับใหม่เสนอให้หน่วยงานที่ เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการลงทุนร่วมมือกันในกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ เช่น จัด โรดโชว์ร่วม ซึ่งทำให้นักลงทุนได้ลงทุนในโซนเศรษฐกิจที่เหมาะสม และได้รับข้อมูลอย่างครอบคลุม

สำหรับภาคอุตสาหกรรมพร้อมเป้าหมายเม็ด เงินลงทุนที่ถูกบรรจุไว้ในแผนระยะ 5 ปี ได้แก่ เหมืองแร่ 681.47 พันล้านเปโซ อุตสาหกรรมพลังงาน โดยจะเน้นพลังงานทดแทน 564.5 พันล้านเปโซ อุตสาหกรรมต่อเรือ 440.45 พันล้านเปโซ อุตสาหกรรมผลิตเซมิคอนดักเตอร์ 247.53 พันล้านเปโซ อุตสาหกรรมเกษตร 145.34 พันล้านเปโซ บริการไอทีและเอาต์ซอร์ซธุรกิจ 131.42 พันล้านเปโซ ท่องเที่ยว 103.08 พันล้านเปโซ และโลจิสติกส์ 37.48 พันล้านเปโซ ซึ่งสรุปแล้วมีมูลค่าการลงทุนห่างจากเป้า 2.405 ล้านล้านเปโซ ราว 53.73 พันล้านเปโซ

นอกจากเพิ่มความพยายามดึงดูดการลงทุนแล้ว ปัจจัยที่คาดว่าจะช่วยดึงโครงการเข้ามาในภาคอุตสาหกรรมข้างต้นก็คือ ทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรบุคคลในฟิลิปปินส์ ตลาดจน พื้นฐานที่มีอยู่แล้ว เช่น กฎหมาย และแผนเชิงพื้นที่ นอกจากนี้ฟิลิปปินส์ยังมีชื่อเสียงเรื่องขีดความสามารถในการแข่งขันของ อุตสาหกรรมดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ตามแผนนี้ ฟิลิปปินส์ได้เจาะจงประเทศที่ต้องการดึงเม็ดเงินลงทุนไว้ โดยแบ่งตามรายอุตสาหกรรม เช่น นักลงทุนเหมืองแร่จากญี่ปุ่น และจีน เป็นต้น
http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02edi01010753&sectionid=0212&day=2010-07-01

ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.thaifreedompress.blogspot.com/
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.media4democracy.com/th/
http://www.youngtelecom.org/
http://www.logex.kmutt.ac.th/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm
http://www.isriya.com/node/2809
/wordcamp-bangkok-2009-pool-party
C:\Documents and Settings\user\My Documents\ไฟล์ที่ได้รับของฉัน\issarachon1101.wma
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=hiansoon

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น